กรณี “น้องหนูนา” เด็กหญิงอายุ 5 ขวบที่แขนขาดหลังประสบอุบัติเหตุเสื้อผ้าเข้าล้อรถจักรยานยนต์จนแขนซ้ายกระชากจนขาดไปถึงหัวไหล่ แม้ว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์จะพยายามต่อ แต่สุดท้ายพ่อแม่ตัดสินใจไม่ต่อแขน โดยโซเชียลมีเดียต่างให้กำลังใจอย่างล้นหลามหวังให้เด็กปลอดภัยจำนวนมาก ล่าสุด คุณพ่อของ “น้องหนูนา” ได้เปิดบัญชีใหม่เพื่อร่วมบริจาคเพื่อเป็นทุนการศึกษา และเป็นทุนในการทำแขนเทียมเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ “น้องหนูนา” ได้กำลังใจจากผู้มาเยี่ยมอย่างล้นปรี่ อาการดีขึ้นมาก..พร้อม ชู 2 นิ้วเล่นกับตุ๊กตาหมีอย่างอารมณ์ดี
ด.ญ.ธัญลักษณ์ เรือนรินทร์ หรือ “น้องหนูนา” นักเรียนชั้นอนุบาล 2 ยิ้มแย้มแจ่มใสมากกว่าวันแรก ๆ ยังชู 2 นิ้วให้ผู้ที่มาเยี่ยมดูว่าน้องสู้ๆ ซึ่งเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (13 มิ.ย.61) นพ.สมภพ สารวนางกูร รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ รพ.สุรินทร์ นำสื่อมวลชนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์-พยาบาลเข้าไปเยี่ยมดูอาการของ “น้องหนูนา” ล่าสุด ตอนนี้อาการบาดเจ็บแขนซ้ายขาดเริ่มดีขึ้นตามลำดับ สามารถลุกนั่งบนเตียงและพูดคุยกับพ่อแม่และผู้ที่มาเยี่ยมได้อย่างเป็นกันเอง ซึ่งอาการเจ็บบริเวณต้นแขนซ้ายที่ขาดและจากการผ่าตัดเย็บปิดแผลโดย “น้องหนูนา” บอกว่า ไม่ค่อยเจ็บแล้ว
นอกจากนี้ นายคำปุ่น บุญเชิญ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 พร้อมคณะครูจากโรงเรียนเมืองสุรินทร์ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมมอบเงินสดจำนวนหนึ่งด้วย กระเช้าของขวัญ และตุ๊กตาหมีสีแดงเพื่อเป็นการปลอบใจ “น้องหนูนา” อีกด้วย
นพ.สมภพ เปิดเผยว่า ตอนนี้อาการของ “น้องหนูนา” ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน ส่วนด้านของการเจ็บป่วยในเรื่องของแผลถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่แพทย์พึงพอใจ บาดแผลเป็นไปตามปกติไม่มีแผลติดเชื้อ ซึ่งโรงพยาบาลก็ได้ตกแต่งแผลที่เย็บไว้เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับอารมณ์และสภาพจิตใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสมากขึ้น สามารถพูดคุยหยอกล้อกับพ่อแม่ได้ตลอดเวลา จากที่เคยงอแงก็ไม่มีแล้วถือว่าเป็นที่พึงพอใจ อย่างไรก็ตาม ทาง รพ. ยังได้จัดคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านของจิตใจเข้ามาร่วมดูแลด้วย ส่วนเรื่องแขนเทียมในอนาคต ได้ปรึกษากับคุณพ่อของ “น้องหนูนา” แล้ว อาจจะมีการเปลี่ยนไปตามการเจริญเติบโต เช่นเมื่อโตเป็นสาวอายุประมาณ 16-18 ปี ตอนนั้นจะเป็นแขนที่เรียกว่า เป็นแขนเทียมชนิดที่ใช้งานได้ถาวร ส่วนงบประมาณเรื่องค่าใช้จ่ายการทำแขนเทียมจะค่อนข้างสูง
“ส่วนในเรื่องของแขนเทียมในอนาคต ได้ปรึกษากับคุณพ่อของน้องแล้ว ก็คือในช่วงที่น้องยังมีการเจริญเติบโต ซึ่งก็มีการเปลี่ยนแปลงจะเป็นในลักษณะของการที่ต้องมีการใช้ อาจจะต้องเปลี่ยนไปตามอายุให้มีความสอดคล้อง แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาจะเติบโตเต็มที่แล้ว เช่นครบวัย 16 ถึง 18 ปี ตอนนั้นจะเป็นแขนที่เรียกว่า เป็นแขนเทียมชนิดที่ใช้งานได้ถาวร ด้านงบประมาณในการใช้จ่าย ก็จะค่อนข้างมาก ถ้าเป็นแขนที่ดูสวยและใช้งานได้ ซึ่งมีลักษณะที่เป็นแขนไฟฟ้าก็ค่อนข้างที่จะแพง ตอนนี้หากจะมีการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือน้อง กองทุนตัวนี้ก็จะช่วยเหลือน้องต่อไปในอนาคต ซึ่งน้องจะต้องเปลี่ยนแขนเทียมตามวัยที่จะเจริญเติบโตขึ้น โดยการเปรียบเทียบระหว่างแขนซ้ายกับแขนขวาที่ต้องใกล้เคียงกัน ซึ่งจะต้องเปลี่ยนบ่อยในช่วงมีการเจริญเจริญโต แต่เมื่อถึงช่วงก้าวขึ้นสู่วัยรุ่น ตอนนั้นน่าจะเปลี่ยนค่อนข้างบ่อยนิดหนึ่ง แต่ตอนที่เล็กๆอาจจะยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนบ่อย” นพ.สมภพ กล่าวเพิ่มเติม
หากประชาชนผู้ใจบุญต้องการบริจาคเงินช่วยเหลือ “น้องหนูนา” เด็กผู้เคราะห์ร้ายไว้เป็นทุนในการทำแขนเทียมและทุนการศึกษาในอนาคต สามารถโอนเงินมาได้ที่ บัญชีธนาคารออมสิน สาขา แยกหนองบัว ชื่อบัญชี นายอภัย เรือนรินทร์, นายเอกกร บูรณ์บุรี เพื่อ ด.ญ.ธัญลักษณ์ เรือนรินทร์ เลขที่บัญชี 020243166723 หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ นายอภัย เรือนรินทร์ พ่อของ “น้องหนูนา” หมายเลขโทรศัพท์ 080-484-4784