นี่คือภาพสถานการณ์น้ำที่ไหลเข้าท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยล่าสุดได้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนไปแล้วกว่า 500 หลังคาเรือน ด้านชาวนาต้องช่วยกันปิดกั้นทางน้ำเพื่อไม่ให้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือ
น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลมายังแม่น้ำน้อยในตำบลหัวเวียงอำเภอเสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังเติบโตได้รับเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยชาวนาหลายรายต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการพยายามปิดกั้นทางน้ำไม่ให้ไหลเข้าทะลักที่นาของตนเอง เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่นาในอำเภอเสนาและอำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล ผู้ที่อยู่พื้นที่ต่ำริมแม่น้ำ ยังคงถูกระดับน้ำที่เข้าท่วม เป็นจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 500 หลังคาเรือน
ล่าสุดทาง นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันภัยสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกเตือนประชาชนหากมีความเดือดร้อนขอให้แจ้งมายังหน่วยป้องกันภัยศาลาใหม่เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและเตือนให้ระวังน้ำขณะนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากยังมีพายุฝนที่เข้ามาในประเทศไทยและให้เก็บของเข้าที่สูง
ขณะที่ นายเรวัต ประสงค์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้ขอความร่วมมือไปยัง กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้ส่งผลกระทบต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยาน้อยลงกว่านี้
โดยขอให้เพิ่มการผันน้ำเข้าไปทางคลองชัยนาท – ป่าสัก เพื่อลดปริมาณน้ำที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยตอนล่าง ทั้งนี้ สามารถผันน้ำเข้าคลองชัยนาท-ป่าสัก มาออกที่แม่น้ำป่าสัก หน้าเขื่อนพระรามหก เขตอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งน้ำยังไม่มากและสามารถรับน้ำได้ถึง 350 ลบ.ม./วินาที โดยปริมาณดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชนริมแม่น้ำป่าสักในเขตพื้นที่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังสามารถผันน้ำเหนือดังกล่าว จากหน้าเขื่อนพระรามหก เข้าไปใรคลองระพีพัฒน์ได้ด้วย เพราะชาวนาในพื้นที่ ตำบลกระจิว อำเภอภาชี แจ้งว่ายังต้องการน้ำเพื่อการเกษตรเพิ่มเติมอีกมาก จึงขอให้กรมชลประทานระบายน้ำเข้าในพื้นที่ดังกล่าวด้วย