สถานการณ์น้ำท่วมทางภาคใต้ยังไม่คลี่คลาย ยังพบหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่นที่จังหวัดตรังท่วมไปแล้ว 7 อำเภอ โรงเรียนปิดการเรียนกันสอนต่อเนื่องจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
น้ำท่วม 7 อำเภอ จ.ตรัง
เริ่มที่ จ.ตรัง สถานการณ์น้ำท่วมยังขยายวงกว้างทั้ง 7 อำเภอเนื่องจากมีฝนตกลงมาซ้ำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเอ่อล้นตลิ่งและไหลเข้าท่วมถนนเลี่ยงเมืองสายนานอน-นาขา ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออกเป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร ชาวบ้านต้องขึงเชือกเพื่อไต่เข้าบ้านอย่างทุลักทุเล ส่วนที่หมู่ที่ 2 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่หน้าบ้านของนายพิศาล เต็งเฉี้ยง กำนันตำบลหนองตรุด ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้เรือในการขนนักเรียนและชาวบ้านเข้าออกตัวบ้านและกระแสน้ำไหลแรงขึ้นเรื่อย ๆ
ส่วนที่วัดไพรสณฑ์ หมู่ที่ 4 ต.นาตาล่วง อ.เมืองตรัง ประกาศปิดเรียน 1 วันหวั่นน้ำท่วมเหมือนต้นปี 2560 รวมถึงโรงเรียนเทศบาลวัดประสิทธิชัยและวัดประสิทธิชัย ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ระดับน้ำสูงประมาณ 10-30 เซนติเมตร ประกาศปิดการเรียนไป1 สัปดาห์ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ จ.ตรัง ยังประกาศเป็นเขตภัยพิบัติน้ำท่วม 7 อำเภอกว่า 15,000 หลังคาเรือน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนแล้วกว่า 30,000 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ในจ.ตรังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในอำเภอนาโยง,อำเภอปะเหลียนและอำเภอรัษฎา ที่ลดลงจนเกือบเข้าสู่ภาวะปกติ กลับเพิ่มสูงขึ้นอีกระลอก ส่วนชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมพนังกั้นแม่น้ำตรัง หวั่นพนังกั้นน้ำทรุดตัวเนื่องจากเกิดรอยร้าวขึ้นหลายจุดแล้ว
จ.สตูล ยังเฝ้าระวังแม้ระดับน้ำลดลง
ส่วนที่ จ.สตูล ชาวประมงเรือเล็กนำเรือเข้าจอดหลบลมตามลำคลองในหมู่บ้านริมคลองมำบัง ต.พิมาน อ.เมือง หลังเสร็จสิ้นการออกเรือหาปลาริมชายฝั่ง โดยชาวประมงบอกว่า แม้คลื่นลมจะไม่แรงมากนักในระยะนี้ แต่ต้องติดตามการรายงานสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก และฝนตกหนัก ขณะที่คลองฉลุง ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล กระแสน้ำจากต้นน้ำที่ไหลผ่านยังคงเป็นสีแดงขุ่นไหลแรงและเร็ว ปริมาณน้ำยังสูงขณะที่ปริมาณฝนลดลงแต่ท้องฟ้ายังคงปกคลุมไปด้วยกลุ่มฝน สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่หลายจุด 3 อำเภอที่ท่วมขังในครั้งนี้ได้ลดลงเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ฝนตกถนนทรุดยาวต่อเนื่อง 30 ม. ที่เบตง
ถนนสาย 410 ยะลา – เบตง บริเวณสามแยกบ้าน กิโลเมตรที่ 27 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง ได้เกิดการทรุดตัวพังเป็นรอยแตกยาวประมาณ 30 เมตร ลึกประมาณ 2 เมตร รวมถึงปูนที่ก่อขึ้นมากั้นทางริมถนนก็ได้พังไปด้วย และคาดว่าถนนน่าจะทรุดตัวอีก หลังมีฝนตกหนักติดต่อหลายวัน ทำให้ดินอุ้มน้ำมากเกินไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หมวดการทางเบตงต้องเร่งเข้าไปสำรวจพร้อมกับปิดการจราจร โดยนำกรวยและป้ายมากั้นไม่ให้รถวิ่งผ่าน เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายและเร่งเข้าไปซ่อมแซมอย่างเร่งด่วน
ด้าน นายดำรงค์ ดีสกูล นายอำเภอเบตง เปิดเผยว่า ฝนที่ตกต่อเนื่องช่วงนี้ทำให้เกิดดินสไลด์อยู่เป็นประจำ บางจุดมีถนนทรุดตัวลงมา โดยเจ้าหน้าที่อำเภอเบตงเมื่อได้รับแจ้งก็จะเข้าไปตรวจสอบช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการแก้ไข ทั้งนี้ ได้ฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่อาศัยในที่ราบลุ่มและที่ราบเชิงเขาในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมด้วย รวมถึงให้ติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเกิดเหตุอุทกภัยสามารถแจ้งได้ ณ ที่ว่าการอำเภอเบตง หมายเลขโทรศัพท์ 0-7323-0448 หรือ 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
จ.เชียงราย มีหมอกหนาแต่ไม่กระทบการบิน
ส่วนสภาพกาศที่หนาวเย็น ทางเชียงรายเช้านี้ พบว่าได้มีหมอกลงจัดในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งวัดอุณหภูมิได้ 16 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะบนถนนพหลโยธิน สายเชียงราย – แม่สาย มีหมอกลงตลอดเส้นทางทำให้การสัญจรต้องเพิ่มความระมัดระวัง นอกจากนี้บริเวณท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงราย ก็พบว่ามีหมอกลงจัดบริเวณรันเวย์ แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่อการบินแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงเช้านี้พบว่าประชาชนต่างนำเครือ่งนุ่งห่มกันหนาวมาสวมใส่กันแล้วหลังจากอุึณหภูมิลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ประเทศไทยตอนบนอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นไว้ด้วย โดยมีสภาพอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าอุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-15 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.