สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำ หลังจากที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเมื่อวาน 2,188 ลบ.ม. ต่อวินาที เป็น 2,386 ลบ.ม. ต่อวินาทีในวันนี้ ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 40-50 ซม. ส่วนที่ จ.พิจิตร แม่น้ำยมมีปริมาณน้ำสูงขึ้นทำให้ชาวบ้านกว่า 1 พันหลังคาเรือนได้รับผลกระทบถ้วนหน้า
เริ่มกันที่ จ.พิจิตร แม่น้ำยมยังเพิ่มปริมาณสูงขึ้น เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน โดยจากภาพมุมสูงจะเห็นว่า แม่น้ำยมที่มีปริมาณมากไหลผ่านพื้นที่ ตำบลบางลาย อำเภอบึงนาราง โดยน้ำได้ไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ทั้ง 9 หมู่บ้าน จำนวน กว่า 1000 หลังคาเรือน ถนนภายในหมู่บ้านที่เป็นเส้นทางสัญจร ถูกน้ำท่วมสูง 70-80 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องนำเรือมาใช้สัญจรแทน เนื่องจากรถไม่สามารถสัญจรได้
ขณะที่ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยพิจิตร ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งมีน้ำท่วมขัง จำนวน 10 อำเภอ 46 ตำบล 254 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 9,964 ครัวเรือน พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามคำเตือน และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่และ อุปกรณ์ช่วยเหลือประชาชน ตลอด 24 ชั่วโมง
เขื่อนเจ้าพระยาปล่อยน้ำเพิ่มระดับน้ำสูงอีก 50 ซม.
ส่วนพื้นที่ จ.ชัยนาท นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ.เขต 16 ชัยนาท ได้แจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใน 4 จังหวัด คือ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพราะเขื่อนเจ้าพระยาจะมีการปรับเพิ่มการระบายน้ำ เพื่อรองรับปริมาณน้ำเหนือ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ1เมตร และจะทำให้้พื้นที่น้ำท่วมขยายวงกว้างและรุนแรงขึ้น โดยล่าสุดกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำเครื่องสูบน้ำ และเรือลงพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงแล้ว ซึ่งพื้นที่ใดต้องความช่วยเหลือ สามารถแจ้งผ่านผู้นำท้องถิ่นได้ทันที
น้ำหนองหารเพิ่ม 100% หวั่นล้นท่วมสกลนครซ้ำรอย
ข้ามฟากไปที่ภาคอีสานใน จ.สกลนคร หลังจากร่องมรสุมพัดผ่านเข้ามาในภาคอีสานตอนบน ส่งผลให้ฝนตกลงมาในช่วง 2 -3 วันที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำหลายแห่งปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริเวณหนองหาร มีปริมาณน้ำเก็บกัก 266.924 ล้านลูกบาศก์เมตร ณ ปัจจุบัน คิดเป็น 100 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณที่มีอยู่เดิม เจ้าหน้าที่ต้องเร่งพร่องน้ำออก โดยการเปิดบานประตูระบายน้ำ 3 บาน เพื่อระบายน้ำลงสู่ลำน้ำก่ำให้ได้วันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่มีปริมาณน้ำไหลจากเทือกเขาภูพานเข้าหนองหาร วันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตรเช่นกัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอดวัน เพราะเกรงว่า หากมีฝนตกต่อเนื่องอย่างหนัก อาจจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดสกลนครซ้ำรอยกับเมื่อ 2 เดือนก่อน