ประชุมเพลิงอดีตเจ้าคณะอำเภอพังโคนโดยไร้ร่าง ผู้ใหญ่บ้านเผยเครื่องใช้ส่วนตัวแทน โดยถือว่าเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2560 คณะกรรมการวัดศิริมงคลจัดพิธีประชุมเพลิงพระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ อดีตเจ้าคณะอำเภอพังโคน โดยไร้สรีระสังขาร หลังเกิดเหตุกาณ์ไม่คาดฝันร่างพระครูหายไปก่อนถึงวันงาน ท่ามกลางความโศกเศร้าของเหล่าศิษยานุศิษย์
พิธีบำเพ็ญกุศลให้กับพระครูโสภณธรรมภิวัฒน์ หรือพระมหายนต์ อดีตเจ้าคณะอำเภอพังโคนและอดีตเจ้าอาวาสวัดศิริมงคล บ.หนองหญ้าปล้อง ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร ยังคงดำเนินไปตามกำหนดการเดิมตามมติที่คณะคณะกรรมการวัดและเหล่าศิษยานุศิษย์ตลอดจนญาติโยมลงความเห็นร่วมกัน ในการจัดงานให้เสร็จสิ้นตามประเพณีทางศาสนา แม้ไร้ร่างสังขารของพระมหายนต์ หลังจากตลอดเวลา 4 วันที่ผ่านมาได้มีความพยายามติดตามหาร่างของอดีตเจ้าคณะอำเภออย่างเต็มที่ แต่ก็ยังคงไร้วี่แวว
โดยบรรยากาศภายในวัดศิริมงคลเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตามขั้นตอนพิธีการที่กำหนดไว้ เริ่มตั้งแต่เวลา 18.30 น. เหล่าศิษยานุศิษย์และคณะสงฆ์ พร้อมกันประกอบพีธีทางศาสนาตามประเพณี เริ่มจากการประกอบพิธีสวดพระอภิธรรม การแสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยพระเดชพระคุณเจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน ต่อจากนั้นเป็นการแสดงรำส่งสการถวายหน้าไฟของนักเรียนจากโรงเรียนสว่างแดนดิน ต่อด้วยการรำบูชาหน้าไฟของนักเรียนจากโรงเรียนพังโคนพิทยาคม และการแสดงรำวงการกุศลย้อนยุค โดยชาวบ้านหนองหญ้าปล้อง ซึ่งเป็นการแสดงที่พระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์โปรดปราน เพื่อเป็นการแสดงมุฑิตาจิตไว้อาลัยถวายแด่พระครูเป็นครั้งสุดท้าย
ต่อจากนั้นเวลา 22.00 น.จึงเป็นขั้นตอนสุดท้ายตามกำหนดการ คือพิธีประชุมเพลิง ซึ่งเป็นการประชุมเพลิงโดยที่ไม่มีร่างสังขารของพระครู โดยได้รับการสนับสนุนรถดับเพลิง 2 คันมาเตรียมพร้อมไว้ โดยประธานในพิธีประชุมเพลิงคือพระเดชพระคุณเจ้าคณะตำบลพังโคน ได้จุดไฟให้วิ่งไปตามสายชนวนที่ทางฝ่ายจัดเตรียมงานได้วางระบบไว้ โดยมีการจุดพลุดอกไม้ไฟสลับอย่างสวยงาม กระทั่งไฟได้โหมลุกบริเวณโลงศพไม้ประดู่สีทอง ที่พระครูโสภณธรรมาภิวัฒน์ ได้สร้างเตรียมไว้สำหรับใช้ใส่ร่างของท่านเองก่อนที่ท่านจะมรณภาพ และลุกท่วมตลอดเมรุชั่วคราว เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการประชุมเพลิง ท่ามกลางเสียงสวดมนต์ของพระสงฆ์และเสียงสาธุด้วยความอาลัยของญาติโยมที่มาร่วมงาน
นายคำพูล วันสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหญ้าปล้อง กล่าวว่า คณะกรรมการวัดมีมติว่าต้องประชุมเพลิงแม้จะไม่มีสรีระสังขารของหลวงตามหายนต์ ก็ตาม โดยจะมีเครื่องใช้ส่วนตัวแทน โดยถือว่าเป็นการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย ส่วนสรีระสังขารของหลวงตาฯให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะค้นหา แม้จะถูกทำลายโดยการเผาหรือการฝังก็ตาม ในวันนี้ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านถือว่าได้ร่วมกันทำบุญส่งกุศลจิตแก้ผู้วายชนไปแล้ว