งานการแสดงแสง สี เสียง เดอะมิวสิคัล ฟ้าแดดสงยาง ในประเพณีสรงน้ำพระธาตุยาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2560 ได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง
ภาพมุมสูงบริเวณโบราณสถานพระธาตุยาคูเมืองฟ้าแดดสงยาง บ้านเสมา ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โดย นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้นำข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนกว่า 1 พันคน ร่วมกันรำเครื่องบวงสรวงและประกอบพิธีบวงสรวงพระธาตุยาคู ซึ่งเป็นโบราณสถานในยุคทวาราวดี อายุกว่าหนึ่งพันปี การบวงสรวงเริ่มต้นขึ้นด้วยขบวนแห่ฟ้อนรำ ภายในโบราณสถาน โดยใช้นางรำตำบลหนองแปนกว่า 500 ชีวิต ที่แต่งกายสวยงามในชุดผ้าไทยสีขาว จากนั้นยังได้ร่วมกันรำบวงสรวงต่อหน้าพระธาตุยาคู สิ่งศักดิ์ที่ชาวกาฬสินธุ์ยึดถือ เพื่อส่งสัญญาณในการฉลองตามประเพณี ก่อนก้าวเข้าสู่เทศกาลวันวิสาขบูชา
สำหรับปีนี้ อ.กมลาไสย ร่วมกับการท่องเที่ยวและกีฬา จ.กาฬสินธุ์ ,วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ,วิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธุ์ , สำนักงานเทศมนตรีตำบลหนองแปน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังจัดให้มีการแสดงแสง สี เสียง เดอะมิสิคัล ฟ้าแดดสงยาง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ซึ่งในปีนี้เป็นครั้งที่3 แต่มีความพิเศษเนื่องจากเป็นรูปแบบละครเพลง ซึ่งได้ น.ส.สุภาพร คำยุธา นักวิชาการอิสระ เป็นผู้กำกับการแสดง และนายณพล ผาธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงดนตรี เป็นผู้กำกับด้านเสียง และยังมีนักวิชาการในด้านต่างๆ ที่ล้วนเป็นคนกาฬสินธุ์ เข้าร่วมแสดงและออกแบบงานละคร
ทั้งนี้ การแสดงละครเพลงได้แบ่งออกเป็น 6 องค์ ซึ่งจะนำเสนอในเรื่องของพระธาตุยาคู ที่เล่าขานถึงความรักระหว่าง ท้าวเชียงโสม และนางฟ้าหยาด ซึ่งเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรัก ซึ่งยังจะสอดแทรกจากอดีตมาถึงปัจจุบันใต้ร่มพระบารมี โดยกำหนดการแสดงระหว่างวันที่ 8-9 พ.ค.นี้ ที่จะเริ่มต้นเวลา 6 โมงเย็น ส่วนในวันที่ 10 พ.ค. ก็จะเป็นการสรงน้ำพระธาตุยาคู เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี 2560 นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจำหน่ายพืชผลทางการเกษตรจากกลุ่มเกษตรกรที่อยู่ในโครงการพัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และกลุ่มอาชีพในพื้นที่ การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อป ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการขยายตลาดสินค้าสร้างรายได้ให้กับกลุ่มอาชีพต่างๆ ในพื้นที่ได้อีกด้วย
สำหรับพระธาตุยาคู เป็นหนึ่งโบราณสถานอายุราวพุทธศตวรรษที่12-14 ชั้นฐานราก อยู่ในสมัยทวาราวดี ส่วนชั้นถัดมาเป็นการก่อสร้างเพื่อทับในสมัยอยุธยา และชั้นบนสุดเป็นรูปแบบการก่อสร้างในช่วงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งปัจจุบันสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแปน ดูแลอยู่