ป.ป.ท.เขต 5 ลุยตรวจทุจริตเบิกจ่ายเงินศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเชียงใหม่ เหตุได้รับเงินอุดหนุนมากสุดกว่า 8 ล้านบาท เตรียมประสานอำเภอสันกำแพงขอตรวจสอบชาวบ้านอีก 41 รายที่มีชื่อได้รับเงินช่วยเหลือ หลังสุ่มตรวจพบมี 4 รายถูกอ้างชื่อ-ปลอมลายเซ็น พร้อมขยายผลตรวจเพิ่มทุกอำเภอ
ความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเชียงใหม่ หลังจากวานนี้เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 5 ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อ ใบฎีกา และ ใบสำคัญในการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้ได้รับการอุดหนุน ประจำปีงบประมาณ2559 – 2560ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นพบข้อมูลการเบิกจ่ายเงินที่ไม่โปร่งใส่
ล่าสุดวันนี้ (14 กุมภาพันธ์) นายกฤษณ์ กระแสเวช ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 5 เรียกเจ้าหน้าที่เข้าประชุมอย่างเร่งด่วนก่อนจะปูพรหมลงพื้นที่ตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วภาคเหนือ หลังเมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 5 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารแบบสำคัญรับเงิน หรือ แบบ 5
จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ ในตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ และที่บ้านแม่ปูคาหมู่ 7 ตำบลแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง โดย 4 ราย ที่มีการสุ่มตรวจจากทั้งหมด 5 ราย พบว่าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง แต่กลับมีการปลอมลายมือชื่อไปเบิกจ่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้ชาวบ้านเซ็นชื่อเพื่อเปรียบเทียบกับแบบฟอร์มกับเบิกจ่ายเงินปรากฏว่า ลายเซ็นของชาวบ้านไม่เหมือนกันที่เซ็นไว้ในแบบสำคัญรับเงิน จึงได้บันทึกถ้อยคำไว้เป็นหลักฐาน
นายกฤษณ์ กระแสเวช ผู้อำนวย ป.ป.ท. เขต 5 บอกว่า วันนี้ได้แบ่งชุดทำงานลงพื้นที่เพื่อไปขอเอกสารที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่เพิ่มเติม และประสานไปยัง อำเภอสันกำแพงขอตรวจสอบชาวบ้าน 41 รายที่มีรายชื่อได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง เพื่อสอบปากคำเพิ่มว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ได้รับเงินจริงหรือไม่
ขณะเดียวกันเตรียมขยายผลไปยังอำเภออื่นๆอีกเพราะจังหวัดเชียงใหม่ได้รับงบอุดหนุนมากที่สุดถึง 8,580,000 บาท และมีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งทั้งหมด 1,000 ราย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบการเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์คนเร่ร่อน /คนพิการ/ขอทาน และผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ที่มีรายชื่อเป็นผู้ได้รับการช่วยเหลือหมด
ส่วนข้อมูลการทุจริตการเบิกจ่ายเงินที่พบในพื้นที่อำเภอสันกำแพง จะดำเนินการส่งเรื่องทั้งหมดให้อนุกรรมการไต่สวนเพื่อเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป