ความคืบหน้าคดี น.ส. (นามสมมติ) อายุ 44 ปี พาลูกสาว 2 คน คือ ด.ญ.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ และ ด.ญ.ข้าว (นามสมมติ) อายุ 3 ขวบ เข้าแจ้งความที่ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ว่าลูกสาวทั้งสองคนถูกผู้บริหารระดับสูง ระดับผู้อำนวยการของส่วนราชการแห่งหนึ่งใน จ. เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสามีของพี่สาวตนเองและมีศักดิ์เป็นลุงเขยของเด็กหญิงทั้งสองข่มขืนและทำอนาจาร จากนั้นได้มีการประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ เจ้าของท้องที่เกิดเหตุให้เข้ามารับช่วงคดีต่อ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวเด็กหญิงทั้ง 2 คนไปตรวจหาร่องรอยการถูกข่มขืนและทำอนาจารที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
ล่าสุด ผลตรวจจากแพทย์ระบุว่า ในส่วนของเด็กหญิงอายุ 12 ปี พบร่องรอยการถูกข่มขืนมานาน ขณะที่ประจำเดือนก็ขาดมานานกว่า 16 วัน ซึ่งทางการแพทย์ถือว่าตั้งครรภ์ได้ 1 เดือนแล้ว ขณะที่ ด.ญ.วัย 3 ขวบ จากการตรวจร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกข่มขืน แต่พบว่าเด็กถูกทำอนาจารด้วยการใช้มือล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศ รายงานข่าวแจ้งว่า หลังผลตรวจจากแพทย์ยืนยันชัดเจนและจากการสอบปากคำเด็กในเบื้องต้น เช่น รายละเอียดของผ้าปูที่นอน และผ้าห่มภายในห้องนอน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำหมายค้นบุกเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของข้าราชการระดับสูงรายนี้แล้ว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดกับผู้กระทำผิด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดีนี้ ปฏิเสธให้ข้อมูลเนื่องจากเป็นคดีที่มีผู้เสียหายเป็นเด็ก และผู้กระทำผิดเป็นถึงข้าราชการระดับ ซี 8 ที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารของหน่วยงานราชการสำคัญ
ทั้งนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า จากการสอบปากคำเด็กหญิงทั้งสอง พบว่า ภรรยาของข้าราชการรายนี้ซึ่งมีศักดิ์เป็นป้าแท้ ๆ อาจมีส่วนรู้เห็นกับการกระทำในครั้งนี้ด้วย เพราะมีการข่มขู่ไม่ให้เด็กนำเรื่องไปบอกใครจนทำให้เด็กเกิดความหวาดกลัว แต่เมื่อเด็กแสดงอาการพิรุธจนผิดสังเกต มีอาการซึมเศร้าไม่พูดไม่จา และประจำเดือนไม่มาตามกำหนดจึงถูกแม่คาดคั้นในที่สุด