ล่าสุด นางกัสมาพร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เกิดเหตุได้เชิญผู้ปกครองชั้น ป.6 จำนวน 60 ราย ร่วมประชุมเพื่อสร้างความมั่นใจ เผยว่า เตรียมมาตรการห้ามครูปิดห้องขณะทำการสอน ห้ามครูชายเรียกนักเรียนไปพบในที่ลับตา หากมีการเรียกนักเรียนเข้าพบต้องมีเพื่อนนักเรียนติดตามไปด้วย นอกจากนี้ นางกัสมาพรยังกล่าวขอโทษผู้ปกครองทั้งน้ำตาและพร้อมรับผิด หากจะต้องถูกย้ายก็ยินดี
โดยนางกัสมาพรกล่าวทั้งน้ำตาว่า หลานสาวแท้ๆ ของตนก็ถูกกระทำด้วยเช่นเดียวกัน ได้บอกให้ไปแจ้งความดำเนินการให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าจะให้ความยุติธรรม พร้อมจะลงไปเยี่ยมเยียนเพื่อให้กำลังใจกับนักเรียนและผู้ปกครองทุกคนที่ถูกกระทำ เพื่อเป็นการเยียวยาจิตใจเบื้องต้น และขอแก้ข่าวที่ว่ามีนักเรียนย้ายห้องเรียน หรือย้ายออกจากโรงเรียน หรือไม่มาโรงเรียน ไม่เป็นความจริง นักเรียนทุกคนมาเรียนหนังสือตามปกติ
ด้านนางสิริลักษณ์ นาควิสุตร ครูหญิงที่ก่อนหน้านี้มีภาพหลุดการคุยไลน์กับผู้ปกครองลักษณะคล้ายพยายามช่วยครูชาย ก็ได้กล่าวขอโทษโดยอ้างว่าทำไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และที่ผ่านมาได้รับบทเรียนและการลงโทษทางสังคมแล้ว และไม่กล้าออกจากบ้านเพราะเกรงว่าจะมีคนจำได้และถูกต่อว่า ที่ผ่านมาก็รู้สึกว่าตอนนั้นทำผิดพลาดที่ด่วนคิดด่วนทำ ไม่ได้ฟังข้อมูลให้รอบด้าน แต่อยากให้สังคมเห็นใจเพราะที่ทำไปเพราะไม่อยากให้นักเรียนไปแจ้งความเพิ่ม เนื่องจากไม่ต้องการให้เด็กต้องถูกถามถึงเหตุการณ์ที่ถูกกระทำซ้ำๆ เหมือนไปย้ำเตือนความทรงจำที่ไม่ดีให้ฝังลงในใจเด็ก
ขณะที่ผู้ปกครองของนักเรียนหญิงชั้น ป.6 ของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.ฉลองชัย บางจั่น เจ้าของคดีเพิ่มเติมอีก 1 ราย โดยผู้ปกครองเล่าว่า เมื่อทราบข่าวได้สอบถามลูกสาวว่าถูกกระทำหรือไม่ เพราะอยู่ในระดับชั้นเดียวกันกับนักเรียนหญิงคนอื่นๆ ซึ่งลูกสาวยอมรับว่าถูกกระทำด้วย โดยครูคนดังกล่าวได้เรียกเข้าไปพบช่วงเวลาพัก แล้วให้นวดขา จากนั้นก็ล้วงมือเข้าใต้กระโปรงของนักเรียนหญิงลูบคลำอวัยวะเพศซึ่งเกิดเหตุหลายครั้งและต่อเนื่องมากว่า 6 เดือน ผู้ปกครองของเด็กหญิงรายที่ 13 ที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ยืนยันว่า ต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จะไม่มีการยอมความใดๆ ทั้งสิ้น