ผู้อำนวยการ รร.บ้านไผ่ศึกษา จ.ขอนแก่น ออกมาเปิดเผยครั้งแรก ยืนยันว่าไม่ได้ตบหน้าเด็กนักเรียนชายชั้น ม.2 ตามที่ปรากฏเป็นข่าว แต่ที่ไม่ออกมาพูดเพราะเป็นห่วงอนาคตของเด็ก
ที่ห้องประชุมเล็ก โรงเรียนบ้านไผ่ศึกษา ต.หัวหนอง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นายวรรณปกรณ์ จุมพลน้อย อายุ 41 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน ผู้ซึ่งถูกนักเรียนชั้น ม.2 กล่าวหาว่า ตบหน้าในห้องพักครู เมื่อช่วงบ่ายสามโมงวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา และผู้ปกครองนักเรียนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในเย็นวันเดียวกัน
ซึ่งที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ มาอย่างต่อเนื่อง ทราบว่า ในส่วนของนักเรียนนั้น พงส.ได้ทำการสอบสวนต่อหน้าทีมสหวิชาชีพไปเรียบร้อยแล้ว และสอบสวนผู้ปกครองแล้วเช่นกัน และอยู่ระหว่างการเชิญตัวครูที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำ รวมทั้งรอใบรับรองแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายนักเรียน ว่ามีผลออกมาเช่นไร จึงจะเรียก ผอ.ไปสอบสวน หากพบว่าทำร้ายร่างกายนักเรียนจริงก็จะมีการแจ้งข้อหานั้น
ล่าสุด นายวรรณปกรณ์ จุมพลน้อย ผอ.โรงเรียนบ้านไผ่ศึกษา ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่าตบหน้านักเรียน ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นผอ.ที่โรงเรียนแห่งนี้มาร่วม 2 ปี สอบถามพฤติกรรมจากครูและนักเรียนได้ ว่าเป็นคนเช่นไร ขอยืนยันต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าไม่ได้ตบหน้านักเรียน ไม่มีการทำร้ายร่างกายนักเรียน โรงเรียนบ้านไผ่ศึกษามีนักเรียนร้อยกว่าคน สอนตั้งแต่ ม.1-ม.6 ครูกับนักเรียนดูแลกันเหมือนครอบครัว ไม่มีครูคนไหนทำร้ายร่างกาย หรือตบตีลูกศิษย์ตัวเองได้ลงคอ
ผอ.ยังกล่าวอีกว่า กรณีคลิปนั้น เนื่องจากโรงเรียนมีกล้องวงจรปิดทั้งหมด 12 ตัว ติดอยู่ตามที่ต่างๆภายในโรงเรียน แต่ขณะนี้ไม่สามารถนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนได้ เพราะคลิปดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลักฐานในคดีอาญา จึงขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุการณ์ดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 29 มิถุนายน ขณะที่ผมกำลังอบรมนักเรียนในห้องประชุม เห็นนักเรียนหญิงชั้น ม.3 นั่งร้องไห้ในห้องประชุม สอบถามจึงทราบว่า โทรศัพท์มือถือหาย เมื่อรู้ว่ามีทรัพย์สินของนักเรียนหาย จึงได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดในโรงเรียนดู ก็พบภาพบางอย่างในกล้องวงจรปิด แต่เพราะเห็นแก่อนาคตเด็ก ขณะนั้นจึงไม่ได้แจ้งตำรวจ
ผอ.ยังบอกอีกว่า โทรศัพท์มือถือ โน้ต 2 ยี่ห้อซัมซุง สีขาว ของนักเรียนหญิงชั้น ม.3 หายไปขณะอยู่ในโรงเรียนเมื่อวันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน นักเรียนหญิงได้แจ้งอาจารย์ฝ่ายปกครองในวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน วันที่ 29 มิถุนายน พบนักเรียนหญิงร้องไห้ สอบถามจนทราบรายละเอียด และตรวจสอบวงจรปิด จนพบเห็นภาพและพฤติกรรมบางอย่างในกล้อง แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ในขณะที่มีการูดคุยกับผู้สื่อข่าวนั้น บางช่วง ผอ.ถึงกับหลั่งน้ำตา เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ละยืนยันว่า ที่ไม่ออกมาพูดตั้งแต่แรกเพราะ เห็นแก่อนาคตนักเรียน อย่างไรก็ตามขอให้ทุกอย่างดำเนินการไปตามขั้นตอน ตอนนี้ได้พูดแล้วสบายใจ อย่างไรก็ไม่นึกโกรธนักเรียนและผู้ปกครอง ขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี และหากวันใดมีการเปลี่ยนแปลง ผอ.คนนี้ก็ยินดีที่จะช่วยเหลือและดูแลนักเรียนต่อไป