“ผู้การแต้ม” พล.ต.ต.วิชัย สังประไพ อดีตรอง ผบช.น. เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเจ้าอาวาสวัดโกโรโกโส จ.อยุธยา เปลี่ยนสี “หลวงพ่อดำ” พระเก่าแก่สมัยอยุธยา จากสีดำเป็นสีทอง
28 มี.ค.60 ผู้สื่อข่าวท้องถิ่น จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งจาก พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ “ผู้การแต้ม” อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ว่า ที่วัดโกโรโกโส ริมคลองข้าวเม่า ม.5 ต.ข้าวเม่า อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าอาวาสของวัดได้มีการเปลี่ยนสีของพระประธานหรือหลวงพ่อดำที่ชาวบ้านเคารพ ซึ่งต่อมา นายสมพร คามีศักดิ์ รองนายก อบต.ข้าวเม่า เดินทางไปตรวจสอบในอุโบสถ พบว่าหลวงพ่อแก้ว หรือ “หลวงพ่อดำ” พระพุทธรูปเก่าแก่สมัย กรุงศรีอยุธยา ได้มีการเปลี่ยนสีซึ่งแต่เดิมองค์พระเป็นสีดำ แต่ได้ถูกทางวัดได้ทำการบูรณะเปลี่ยนสีใหม่เป็นสีทอง ซึ่งทำให้ชาวบ้านไม่เห็นด้วย กับการที่ทางวัดได้เปลี่ยนสีหลวงพ่อแก้ว หรือ “หลวงพ่อองค์ดํา” โดยไม่มีการแจ้งหรือทำประชาคมว่าจะมีการเปลี่ยนสีองค์พระ ซึ่งชาวบ้านที่ไปดูต่างแสดงความไม่พอใจ
พระครูปลัดกิ่ง คุณวโร อายุ 83 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดโกโรโกโส เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทางวัดได้เปลี่ยนสีองค์หลวงพ่อแก้ว หรือ “หลวงพ่อดำ” เนื่องจากมีญาติโยมจากกรุงเทพฯ ได้มาทำบุญที่วัดและเห็นว่า องค์หลวงพ่อแก้วหรือหลวงพ่อองค์ดำทรุดโทรมจึงอยากจะบูรณะทาสีหลวงพ่อใหม่ให้เป็นสีทอง จึงได้แจ้งความประสงค์มาทางวัดซึ่งทางวัดก็เห็นว่าหลวงพ่อดำนั้นมีความเก่าและทรุดโทรมจริง จึงเห็นควรกับญาติโยมที่จะมาทำบุญ จึงได้ให้ลงมือบูรณะใหม่ซึ่งชาวบ้านก็เห็นด้วย แต่ถ้ามีชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยทางวัดก็จะยินดีเปลี่ยนกลับไปเป็นสีดำตามเดิม
พล.ต.ต.ประไพ เปิดเผยว่า วัดโกโรโกโส ถือว่าเป็นวัดร้าง สำนักงานพุทธศาสนาฯ ดูแลและอยู่ในความปกครองของวัดสะแก ซึ่งเจ้าคณะตำบลธนู ได้มอบหมายให้ตนเองเป็นประธานในการบูรณะปฏิสังขรณ์วิหารหลวงพ่อดำ และเขื่อนที่กำลังทรุดและพังทลายให้อนุรักษ์โบราณสถานวัดโกโรโกโส ซึ่งขณะนี้ได้งบจากภาครัฐสร้างเขื่อนกั้นตลิ่งมาประมาณ 7 ล้านบาท ซึ่งประวัติความเป็นมายังเป็นพระพุทธรูปที่พระยาตาก (สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช) ได้นำทัพออกไปรบแล้วกราบไหว้ แล้วกลับมาบูรณะใหม่ ตนจึงจะเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.อุทัย ดำเนินการต่อไป