เฒ่าวัย 60 ลวงเด็กชายเตรียมไปทำมิดีมิร้ายชายป่ายูคา โชคดีที่เด็กวิ่งหนีรอดมาได้หลังเฒ่าหื่นพยายามถอดเสื้อ แม่พาแจ้งตำรวจ พบเด็กนักเรียนชายหลายคนถูกหลอกมาแล้วแต่พ่อแม่ไม่กล้าแจ้งความ
จากกรณีที่ ผู้ปกครอง ชาว อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พาเด็กชายรี นามสมมุติ อายุ 11 ปื นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ เข้าแจ้งความ กับ สภ.ศรีมหาโพธิ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย. 2560 ว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.มีชายวัย 50 – 60 ปี นุ่งกางเกงโดเรม่อนขาสั้น สวมเสื้อยืดคอกลมสวมหมวกเพื่อปิดบังอำพรางขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อหมายเลขทะเบียน สีบรอนเทา มาพบลูกชายใกล้กับหน้าสถานีอนามัย บ้านท่าตูมหน้าสถานีอนามัย บ้านท่าตูม แล้วถามหาน้องแก้ม อายุ 11 ปี พร้อมเอารูปให้น้องรี ดู จากนั้นเด็กชายรี ก็บอกว่ารู้จัก เพราะเคยเล่นฟุตบอลอยู่ที่ โรงเรียน ชายคนดังกล่าวจึงให้น้องรีขึ้นรถไปตามหา โดยที่ชายคนดังกล่าวได้จอดรอด้านหน้าทางออกให้น้องรีเข้าไปตาม แต่ไม่พบ จึงให้น้องรีขึ้นซ้อนท้ายบอกจะไปตามหา แต่กลับพาน้องรีไปป่ายูคาลิปตัส ห่างจากโรงเรียนประมาณสองกิโลเมตร จากนั้นบังคับให้น้องรีถอดกางเกงออก แต่เด็กไม่ถอด ชายคนดังกล่าวจึงกระชากคอเสื้อแล้วบังคับให้ถอดเสื้อพร้อมกับเอาเข่ากระแทกใส่ท้องและทำร้ายอีกหลายครั้ง ซึ่งเด็กฉวยโอกาส แล้ววิ่งหลบหนีมาในสภาพนุ่งกางเกงตัวเดียวไม่มีรองเท้าออกจากชายป่าร้องให้คนช่วยพามาหาแม่ ที่หน้าสถานีอนามัย บ้านท่าตูม โดยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ก่อนที่จะพากันไปแจ้งความ
ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดของ โรงเรียนบ้านท่าตูมที่สามารถจับภาพชายสูงวัยตั้งแต่ขี่จักรยานยนต์มาส่ง น้องรี ลงไปตามหาน้องแก้ม ซึ่งในขณะนี้นมีเพื่อนๆและคุณครูที่มาสอบพิเศษออกมายืนดู แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังพาน้องรี นั่งซ้อนท้ายจักรยานยนต์เข้าไปในป่าเพื่อจะทำอนาจาร แต่โชคดีที่เด็กวิ่งหนีรอดออกมาได้
ซึ่งทางผู้ปกครองน้องรีเกรงว่าหากปล่อยไว้ชายคนดังกล่าวอาจไปทำกับเด็กอื่นๆเพราะทราบว่า ชายคนดังกล่าวเคยก่อเหตุเช่นนี้มาแล้วหลายครั้งหลายโรงเรียน ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ แต่ทางผู้ปกครองเกรงว่าบุตรหลานจะอับอายจึงไม่ได้เข้าแจ้งความจึงมาขอภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อมอบให้ทางตำรวจเร่งดำเนินการติดตามชายคนดังกล่าวมาลงโทษโดยเร็ว แต่เมื่อเรื่องทราบถึง เขตพื้นที่การศึกษากลับไม่พอใจอ้างระเบียบไม่สามารถให้ได้เพราะเป็นเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ทำให้ผู้ปกครองถึงกับพูดไม่ออก