ผู้ว่าฯสุโขทัย ยืนยัน สามารถรับน้ำเหนือระลอกใหม่ได้ หลังผันน้ำ อ.คีรีมาศสำเร็จ
นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุมความพร้อมรับน้ำระลอกใหม่ในวันหยุด ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุโขทัย โดยตั้งคณะทำงานรับน้ำ คณะแก้ไขสถานการณ์ และคณะให้ความช่วยเหลือ หากต้องรับน้ำยมจากแพร่ พร้อมลงพื้นที่ดูการผลักมวลน้ำจาก อ.คีรีมาศ ผ่านทางคลองสามพวง คลองสาระบบเพื่อลงแม่น้ำยมที่ประตูระบายน้ำปากพระ อ.เมือง สุโขทัย ขณะนี้เปิดประตูระบายน้ำเต็มบานเพื่อให้น้ำก้อนนี้ไหลลงแม่น้ำยมได้เร็วและสะดวกขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ทางจังหวัดสุโขทัยได้ขอความร่วมมือไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ช่วยประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตแม่น้ำยมเปิดทำนบดินกั้นน้ำในแม่น้ำยมที่ประชาชนปิดกั้นไว้ในช่วงแล้งที่ผ่านมาเพื่อให้การระบายน้ำไหลได้สะดวกขึ้น รวมถึงขอให้ ชลประทานที่3 พิษณุโลกลดระดับน้ำในแม่น้ำน่านให้ต่ำกว่าแม่น้ำยม เพื่อเร่งระบายน้ำในแม่น้ำยมลงสู่แม่น้ำนานได้ดียิ่งขึ้น ทำให้สามารถเร่งระบายได้อย่างเป็นรูปธรรมและบูรนาการณ์ ซึ่งทำให้การจราจรน้ำจาก อ.คีรีมาศ สามารถระบายผ่านลงแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน ได้ดี ซึ่งทำให้น้ำที่ท่วมขังจำนวน 150 ล้านลูกบาศก์เมตร ใน อ.คีรีมาศ ลดลงสู่ระดับปกติ จะมีท่วมขังอยู่บ้างตามท้องทุ่งนาซึ่งขณะนี้เริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่าบ้างแล้ว ทางจังหวัดสุโขทัยยังได้ประสานไปยังชลประทานจังหวัดหาจุดสูบน้ำที่เน่าเสียออกจากจุดท่วมขังที่รอการระบาย อยู่ในขณะนี้
ในส่วนของการแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังและรับทราบถึงสภาวะฝนตกหนักจนอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และการไหลทะลักของน้ำจากกำแพงเพชรนั้น ทางจังหวัดร่วมกับอำเภอคีรีมาศได้มีการประกาศเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากในพื้นที่อำเภอคีรีมาศในรอบ 50 ปีไม่เคยมีน้ำท่วมสูงขนาดนี้ทำให้ประชาชนเกิดความชะล่าใจทำให้การเตรียมการป้องกันเป็นไปได้ช้า เนื่องจากไม่เคยเจอน้ำท่วมหนักอย่างนี้มาก่อนในรอบ 50 ปี อย่างไรก็ตาม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการได้เข้าไปให้การช่วยเหลือทันทีตั้งแต่เกิดสถานการณ์น้ำท่วม และแจกจ่ายถุงยังชีพไปแล้วมากกว่า 7,000 ชุด
ด้านการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำยม บริเวณเขต อำเภอเมืองสุโขทัยนั้น เนื่องจากปัจจุบันมีการก่อสร้างเขื่อนริมตลิ่งแม่น้ำยมยาวกว่า 10 กม.ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ก่อสร้างมาแล้ว2ปี ตามสัญญาจะแล้วเสร็จปลายปี 60-61 ทางจังหวัดสุโขทัยได้มีการเตรียมแผนรับน้ำท่วมแบบบูรนาการทุกภาคส่วน เนื่องจากบางช่วงที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จหากมีมวลน้ำในแม่น้ำยมช่วง จังหวัดแพร่ มามากกว่า 1,000 ลบ.ม./วินาที นั้นทางจังหวัดได้ประสานเตรียมความพร้อมกับผู้รับเหมาในพื้นที่ และเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ให้ใช้หินคลุกปิดคันดินริมตลิ่งทันที ซึ่งจุดที่น่าเป็นห่วงอยู่ที่ด้านหลังธนาคารกสิกรไทยและได้สั่งการให้ทางโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุโขทัยติดตามการทำงานของผู้รับเหมาอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีการปรับแผนตามสถานการณ์ โดยขณะนี้ได้เตรียมหินคลุกไว้ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานีแล้วมากกว่า 500 ลบ.ม. คาดว่าจะสามารถป้องกันได้ทันเนื่องจากมวลน้ำจากแพร่จะใช้เวลาเดินทางถึงสุโขทัยประมาณ 2-3 วัน ซึ่งขณะนี้น้ำที่ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์ จุดแรกในการรับน้ำของสุโขทัย มีเพียง 11 ล้าน ลบ.ม.สามารถรองรับได้มากกว่า 15-16 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนปริมาณน้ำที่แก้มลิงทะเลหลวงตามหน้าที่ของแก้มลิงคือการอมและคายออก ซึ่งแก้มลิงทะเลหลวง เป็นที่รับน้ำจากคลองแม่มอก ที่ไหลเข้าท่วม ต.เมืองบางขลัง อ.สวรรคโลก จากคลองแม่รำพัน ที่ไหลเข้าท่วม ต.บ้านไร่ ต.ราวต้นจันทน์ อ.ศรีสำโรง ปัจจุบันมีความจุเต็มที่ 32 ล้าน ลบ.ม. ขณะนี้ไม่มีการระบายออก เนื่องจากทางชลประทาน ต้องการให้มีการบายพาสน้ำออกไปทาง ต.ปากพระ อ.เมือง ลงไป อ.กงไกรลาศ เพื่อเลี่ยงไม่ให้ไปเติมที่แม่น้ำยม ในส่วนของตัวเมือง หากจำเป็นมีมวลน้ำจากแม่ยมมาในปริมาณมาก จำเป็นต้องผันเข้ามาเก็บในแก้มลิงทะเลหลวง ก็จะผันน้ำออกจากแก้มลิงทะเลหลวงร่วงหน้าเพื่อเตรียมรับน้ำชุดใหม่ต่อไป
อย่างไรก็ตามการเตรียมรับน้ำของจังหวัดสุโขทัย ใช้นโยบายการบริหารจัดการแบบบูรนาการณ์ การบริหารจัดการโดยพื้นฐานข้อมูลข้อเท็จจริงไม่บิดบังคือสิ่งสำคัญที่สุด ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ช่วยกันคิด คาดว่าหน้าน้ำปีนี้ สุโขทัยจะผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมไปด้วยดีหากไม่เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดเช่น นำลอดใต้พื้นดิน หรือน้ำลอดกำแพงดินเดิมชำรุดเสียหาย หรือฝนตกซ้ำเป็นเวลานาน และทางจังหวัดสุโขทัยได้เตรียมแผนป้องกันล่วงหน้าไว้แล้ว
ภาพ -ข่าว /ฤดี ธนวณิชย์วรชัย