พบกับเรื่องราวน่าสนใจของ “น้องโอ๊ะ” เด็กน้อยวัย 11 ขวบ ที่ตามหาความฝันอยากเป็นนักมวยไทยเฉกเช่น “บัวขาว บัญชาเมฆ” กับเส้นทางชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเขาต้องแลกหยาดเหงื่อกับความเจ็บปวดเพื่อหาเงินเลี้ยงแม่และน้องที่ยังเล็กอยู่
เสียงขาที่ปะทะนวมต่อยมวยดังสนั่นและเสียงเปล่งออกจากลำคอด้วยความตั้งใจมุ่งมั่นของ ด.ช.วรัญชัย วันแรก หรือ “น้องโอ๊ะ” อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 ร.ร.อนุบาลละงู อ.ละงู จ.สตูล ทุกวันหลังเลิกเรียนจะต้องกลับมาฝึกซ้อมมวยไทยที่ “ค่ายเกียรติเจริญชัย” เป็นอย่างนี้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา
จุดเริ่มต้นมาจากการตัดสินใจพร้อมญาติเดินทางเข้าสังกัดค่ายมวยนี้ แม้ว่าวันนี้ญาติของ “น้องโอ๊ะ” จะไม่ได้อยู่ในค่ายนี้แล้วแต่ “น้องโอ๊ะ” ยืนยันตามล่าหาความฝันเข้าวงการหมัดมวยและเป็นนักมวยประจำค่ายนี้ต่อไป อีกทั้งฐานะที่ยากจน ทำให้ “น้องโอ๊ะ” ต้องตัดสินใจเข้าวงการมวยตั้งแต่เยาว์วัย
“ฝนเหนือ เกียรติเจริญชัย” ฉายาของ “น้องโอ๊ะ” กับฝีไม้ลายมือในการชกที่ไม่ธรรมดา เจนจัดในสังเวียนขึ้นชกมาแล้ว 25 ครั้ง ชนะ 10 ครั้ง แพ้ 15 ครั้ง ซึ่งต้องฝึกซ้อมอย่างหนักเฉกเช่นนักมวยอาชีพคนอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการเรียนหนังสือซึ่งทางค่ายมวยเกียรติเจริญชัย ได้ส่งเสริมและสนับสนุนพร้อม ๆ กับกีฬาที่ “น้องโอ๊ะ” ชื่นชอบและหวังจะเป็นอาชีพหาเลี้ยงแม่และน้องที่ยังเล็กอยู่เนื่องจากสูญเสียคุณพ่อไปแล้ว ทำให้ “น้องโอ๊ะ” มีความคิดอยากจะช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัวด้วยการชกมวย
น้องโอ๊ะ กล่าวว่า เพื่อน ๆ ในวัยเดียววิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานอยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าตา แต่ตนเองต้องอยู่ในค่ายมวยตามกฎระเบียบของค่ายฯ ก่อนนอนก็คิดถึงแม่แต่ต้องทนสู้เพื่ออนาคต ทำงานหาเงินเลี้ยงแม่และน้องยังเล็ก หวังฝึกฝนมวยไทยให้เก่งเหมือน “พี่บัวขาว บัญชาเมฆ” อย่างที่ตั้งใจไว้ ตนเองรู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อขึ้นชกแต่ก็ต้องอดทนทั้งการฝึกซ้อมและขึ้นชก ทุกครั้ง ๆ ที่ขึ้นชกจะได้เงินมาครั้งละ 500 – 1,000 บาท แบ่งเก็บไว้ใช้ 100 – 300 บาท ที่เหลือจะเก็บสะสมเอาไปให้แม่ซื้อนมและผ้าอ้อมให้น้องที่ยังเล็ก
ด้าน นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ ผู้จัดการค่ายมวยเกียรติเจริญชัย กล่าวว่า ขณะนี้มีนักมวยในค่าย 14 คน รวมทั้ง “น้องโอ๊ะ” ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะยังเด็กและต้องการความรัก แม้ฐานะทางบ้านยากจนแต่เป็นเด็กขยัน อดทน ไม่ดื้อ และเชื่อฟัง ทางค่ายฯ จึงส่งเรียนหนังสือเพื่อให้ “น้องโอ๊ะ” มีอนาคตที่ยาวไกล โดยให้เงินไปโรงเรียนวันละ 50 บาทเหลือกลับมาให้เก็บออมเพื่ออนาคตของตัวเอง รวมทั้งค่ายมวยจะฝึกให้เขาอดทน บางครั้งหากรู้สึกเศร้าหมองคิดถึงบ้านก็จะปลอบโยนดูแล หากวันใดคิดถึงบ้าน จะอนุญาตให้กลับบ้านขึ้นรถโดยสารด้วยตัวเองเพื่อฝึกฝนทักษะชีวิต และเมื่อกลับไปบ้าน “น้องโอ๊ะ” จะหอบหิ้วขนมมาฝากทุกคนเสมอ
ทั้งนี้ ค่ายมวยเกียรติเจริญชัย ให้ฉายาในวงการว่า “ฝนเหนือ เกียรติเจริญชัย” เพราะทักษะการชกทั้งเตะ ต่อย และความว่องไวในการใช้กำลังลงฝ่าเท้าแน่นหนาจากทักษะได้รับการฝึกฝนเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ทางค่ายฯ จะรับผิดชอบดูแลนักมวยทุกคนตั้งแต่ค่าอาหาร ค่าอาหารเสริม แม้จะมีค่าใช้จ่ายเดือนตกหลักแสนบาท แต่ทางค่ายก็ยังเดินหน้าสร้างนักมวยเพื่อชื่อเสียงแก่ จ.สตูล ต่อไป