ชาวบ้านใน จ.เพชรบูรณ์ ค้นพบถ้ำแห่งใหม่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง มีหินงอกหินย้อยอย่างสวยงาม ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจเพื่อผลักดันพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
7 ก.พ.60 หลังจากมีผู้ไปพบถ้ำแห่งหนึ่ง ที่มีหินงอกหินย้อยอย่างสวยงาม บนเทือกเขาซำหมี ม.1 ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุด นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ น.ส.นนทวรรณ จริงจิตร นายก อบต.น้ำร้อน นายวันชัย ศรีพิมพ์ กำนัน ต.น้ำร้อน พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ และนักวิชาการได้เดินทางไปที่เขาซำหมี ทำการสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลความอัศจรรย์ของธรรมชาติภายในถ้ำหินงอกหินย้อยดังกล่าว เพื่อเตรียมนำกลับมาวางแผนเชิญนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยามาสำรวจในรายละเอียด ก่อนจะมีการวางแผนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัด ซึ่งการเดินทางเข้าไปชมนั้นจะต้องใช้รถที่ขับเคลื่อน 4 ล้อจาก อบต.น้ำร้อน ไปยังเขาซำหมีระยะทางราว 10 กิโลเมตร จากนั้นเดินทางเท้าขึ้นเขาซำหมีอีกราว 1 กิโลเมตร ก็จะถึงถ้ำดังกล่าว
ทั้งนี้ นายสมลักษณ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอหล่มเก่า เปิดเผยว่า วันนี้มีโอกาสเข้าไปสำรวจภายในถ้ำได้เพียงแห่งเดียว โดยเป็นถ้ำ 1 ใน 3 แห่ง ที่ทีมสำรวจเข้าไปทำการสำรวจก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นถ้ำที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ภายในถ้ำมีการแบ่งเป็นชั้น และห้องโถงด้วยกันหลายห้อง โดยแต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยแตกต่างกันออกไปจนเกิดความตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้สภาพภายในถ้ำยังมีความอับชื้นค่อนข้างสูง และเส้นทางก็ค่อนข้างลื่นพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินสำรวจเป็นอย่างมาก และจากข้อมูลของทีมสำรวจพบว่า ยังมีถ้ำในลักษณะนี้อีกราว 20 ถ้ำ ในเทือกเขาซำหมีแห่งนี้ ซึ่งจะส่งทีมสำรวจลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง เตรียมเสนอต่อผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อร่วมกันผลักดันพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศต่อไป เนื่องจากอยู่ห่างตัวเมืองเพชรบูรณ์ราว 20 กม. เท่านั้น
ขณะที่ นายสุชิน อินสา นักวิชาการ จาก ม.ราชภัฏเพชรบูรณ์ กล่าวว่า การสำรวจเบื้องต้นคาดว่า หินงอกหินย้อยในถ้ำที่พบนี้ มีอายุราว 1,000 ปี ถือว่ายังใหม่ เนื่องจากสภาพหินย้อยต่าง ๆ ยังมีความขาวใส และยังย้อยได้ไม่มากนัก หากจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ต้องระมัดระวังการจับที่ตัวหินงอกหินย้อย เพราะยังมีความอ่อนอยู่มาก ส่วนการเข้าไปชมนั้นควรใช้ไฟฉาย หรือแสงสว่างมากไป และหลีกเลี่ยงการจุดเทียนไข เพราะจะไปเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในถ้ำ ทำให้หินงอกหินย้อยเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
นายชาญชัย ศรศรีวิชัย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ถ้ำดังกล่าวมีความสวยงามมาก แต่อยากให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ พยายามไม่ให้กระทบกับธรรมชาติ เพราะหินงอกหินย้อยที่พบนี้ ยังสามารถงอกออกมาสร้างความสวยงามให้ได้อีก หากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้าไปเกรงว่าจะไปทำลายระบบนิเวศน์ ต้องวางแผนการจัดการให้ดี เบื้องต้นจะเชิญนักธรณีวิทยาเข้าสำรวจอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกต่อไป