ความคืบหน้าโศกนาฏกรรมอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยว “ฟีนิกซ์” บรรทุกผู้โดยสารรวมไดมาสเตอร์ 97 คน ล่มบริเวณเกาะเฮ จ.ภูเก็ต เมื่อเย็นวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งกรมเจ้าท่ารายงานว่า เจ้าหน้าที่พบซากเรือฟินิกซ์จมอยู่ก้นทะเล เมื่อช่วงเช้ายอดผู้เสียชีวิตเป็น 33 ราย ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ พบเพิ่มอีก 8 ศพ รวมเป็น 41 ศพ เหลือผู้สูญหาย 15 คน
เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (7 ก.ค.61 เวลา 13.00 น.) เรือ ต.113 ของทัพเรือภาคที่ 3 เดินทางมาจอดเทียบกับเรือหลวงหัวหินบริเวณใกล้จุดที่เรือล่ม เพื่อลำเลียง 5 ศพผู้สูญหาย นำกลับขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรือศูนย์วิจัยฯ บ้านอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งได้มีการเตรียมรถของมูลนิธิรอรับ เเละนำส่งต่อไปยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ส่วนการค้นหาหลังจากนี้ยังดำเนินการต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพอากาศที่ยังไม่เอื้ออำนวย แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ละทิ้งความพยายามโดยจะค้นหาผู้สูญหายที่คาดว่าติดอยู่ภายในเรืออีกจำนวนหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 และ พลตรีอาคม พงศ์พรหม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าในการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือล่ม ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มจังหวัดภูเก็ต อาคารศูนย์ควบคุมเรือยอชต์จังหวัดภูเก็ต ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการ จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ของการค้นหาผู้สูญหาย ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 8 ราย จากจำนวนผู้สูญหายจำนวน 23 ราย ยังคงเหลือผู้สูญหายอีก 15 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มเป็น 41 ราย ขณะที่การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิตซึ่งพบก่อนหน้านี้ 33 ราย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว 17 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตที่นำขึ้นฝั่งเพิ่มเติมจะลำเลียงและนำส่ง โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อนำไปพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ขณะเดียวกันทางจังหวัดได้ส่งล่ามประจำที่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้เสียชีวิต รวมทั้งได้ตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้กับญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาจากสนามบินภูเก็ตจำนวน 2 จุด คือ ฝั่งขาเข้าในประเทศและขาเข้าต่างประเทศ โดยจะมีล่ามประกบ 1 ต่อ 1
ส่วนของการค้นหาผู้สูญหายยังคงเนินการต่อเนื่อง นอกจากทีมค้นหาของทางราชการที่เกี่ยวข้องและอาสาสมัครนักดำน้ำของภาคเอกชนแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนทีมประดาน้ำจากทางการจีนมาช่วยค้นหาใต้น้ำจำนวน 17 คน และได้ลงปฏิบัติงานร่วมกับทีมประดาน้ำของทางการไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการปฎิบัติงานครั้งนี้ ทางจังหวัดยืนยันว่า ไม่มีการเปิดรับเงินบริจาคในการดำเนินการแต่อย่างใด และขอความร่วมมือไม่ให้เผยแพร่ภาพผู้เสียชีวิตในทุกกรณี เพื่อให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตด้วย
ทางด้าน พลเรือตรีเจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 กล่าวถึงการค้นหาผู้สูญหายว่า วันนี้เน้นการค้นหาภายในตัวเรือเป็นหลัก โดยจะเน้นย้ำทำการค้นหาทุกซอกทุกมุมของเรือให้แล้วเสร็จในวันนี้ (7ก.ค.) โดยเฉพาะบริเวณห้องเครื่องและห้องโถง รวมถึงห้องอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ เนื่องจากได้อุปกรณ์ที่ทำให้สามารถลงดำน้ำได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันทางอากาศยังคงมีการส่งเฮลิคอปเตอร์บินวนลาดตระเวนค้นหาตามแนวชายฝั่งตามวงรอบที่กำหนด และขยายวงกว้างออกไปกว่าทุกวันที่ผ่านมา ส่วนเรือตรวจการณ์บนผิวน้ำซึ่งมีทั้งหมด 13 ลำ ทำการลาดตระเวนตามวงรอบ A-B ที่กำหนด ร่วมกับทีมนักดำน้ำจากจีนปฏิบัติภารกิจค้นหาใต้น้ำด้วย และการดำเนินค้นหาภายในตัวเรือจะต้องแล้วเสร็จภายในวันนี้ ส่วนการค้นหาผิวน้ำก็ยังคงมีการดำเนินการต่อ และขยายรัศมีออกไปในพื้นที่ จ.พังงา และกระบี่ รวมทั้งการขอความร่วมมือจากเครือข่าย ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) เขต 3 ในการช่วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้พบผู้สูญหายครบตามจำนวน