ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร เดินทางมาร่วมงานศพเด็กหญิงอายุ 4 ขวบที่เสียชีวิตจากเหตุสลดตกท่อน้ำลึก 5 เมตร บริเวณสนามเด็กเล่นบ้านเอื้ออาทร อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ด้านพ่อ-แม่ “น้องน้ำหนึ่ง” วอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 11 พฤษภาคม 2560 นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอำพล อังคภากรณ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวิรัตน์ ไชยสิทธิ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน เรืออากาศโทชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม การเคหะแห่งชาติ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของจังหวัดสมุทรสาคร ตลอดจนผู้แทนราชการจากหลายภาคส่วน ได้มาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพ ด.ญ.โยษิตา บุญงาม หรือ “น้องน้ำหนึ่ง” อายุ 4 ขวบ ที่ศาลาคุณย่ายกนิลดำ วัดราษฎร์บำรุง (หงอนไก่) ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยการสวดพระอภิธรรมศพในค่ำคืนแรกนี้ ก็มีผู้มาร่วมงานจำนวนมาก
และในโอกาสนี้ นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร นอกจากจะส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจด้วยแล้ว ก็ยังได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสียจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังมีตัวแทนจากนิติบุคคลของการเคหะเอื้ออาทรวัดหงอนไก่ ได้ร่วมมอบเงินช่วยเหลือด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่พระสวดพระอภิธรรมศพนั้น ทางด้านของนางสาวสุมามาศ จันทร์อิน แม่ของน้องน้ำหนึ่ง ที่ยังทำใจไม่ได้ ก็ร้องไห้ออกมาตลอด และเมื่อการสวดพระอภิธรรมเสร็จสิ้นลง ทางครอบครัวของ “น้องน้ำหนึ่ง” โดย นายรัชชานนท์ บุญงาม (คุณพ่อ) กับ น.ส.สุมามาศ จันทร์อิน (คุณแม่) ได้เข้ามาขอให้ผู้ว่าราชการจ.สมุทรสาคร ช่วยกำชับและสั่งการให้หน่วยงานที่ต้องเข้ามารับผิดชอบต่อการสูญเสียในครั้งนี้ ทำการรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการ จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวบุญงามแล้ว ก็ได้มีการสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายดำเนินการเพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยาและเป็นธรรมต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ซึ่งทางฝ่ายนิติบุคคลก็คงจะต้องมีส่วนรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย แต่จะต้องรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมายต่อไป และยังต้องเป็นไปภายใต้พระราชบัญญัติการควบคุมอาคารสิ่งก่อสร้างที่จะต้องมีความปลอดภัย ขณะที่ในด้านของการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนขึ้นอีกใน จ.สมุทรสาคร นั้น ก็ได้มีการสั่งการกำชับให้เจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งก็คือ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ทำการสำรวจตรวจสอบความปลอดภัยของฝาท่อระบายน้ำทั้งภายในตัวอาคารและนอกตัวอาคาร เพื่อจะได้ไม่มีเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเช่นนี้เกิดขึ้นอีก
เรืออากาศโทชัยรัตน์ ทองบริบูรณ์ ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ทาง ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ ได้มีการเรียกประชุมด่วน โดยเบื้องต้นได้สั่งการให้มีการเยียวยาช่วยเหลือและฟื้นฟูจิตใจครอบครัวของ “น้องน้ำหนึ่ง” ส่วนการเยียวยาที่มากกว่านั้นได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปรวบรวมข้อมูลแล้วนำมาเสนอ อีกทั้งยังได้สั่งการให้มีการประสานกับทางนิติบุคคลของโครงการฯ ว่าจะมีการเยียวยาอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องของการดำเนินการทางด้านกฎหมายนั้น ก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ขณะที่เรื่องของการมาตรการความปลอดภัยในการเคหะชุมชนฯ ทั่วประเทศนั้น เรืออากาศโทชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้สั่งการอย่างเป็นทางการให้สำนักงานชุมชนทุกแห่งไปกำชับนิติบุคคลที่ดูแลอาคารของโครงการเคหะเอื้ออาทร ให้มีการบังคับเกี่ยวกับสาธารณูปโภคทุกประเภท รวมถึงความปลอดภัยของสิ่งต่างๆ ภายในโครงการฯ อย่าให้มีสิ่งใดชำรุด แต่หากพบชำรุดเสียหายต้องรีบแก้ไขซ่อมแซมทันที อย่าปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้อีก