ภาค ปชช. โต้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ยันยกเลิกคำขอสิทธิบัตรกัญชาได้ ยุ “อภ.-ม.รังสิต” ฟ้อง หากไม่หยุดคำขอสิทธิบัตรกัญชา สร้างความเสียหายวิจัยต่อไม่ได้ วิป สนช.เตรียมเรียกกรมทรัพย์สินฯ แจงประเด็นสิทธิบัตรกัญชาสัปดาห์หน้า
วันนี้ (14 พ.ย.) ที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ภาคประชาชนประกอบด้วย น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานกลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี ภญ.อัจฉรา เอกแสงศรี นักวิชาการอิสระ และ นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ได้จัดแถลงข่าวตอบโต้กรณีที่ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่าไม่สามารถยกเลิกคำขอสิทธิบัตรกัญชาของบริษัทต่างชาติได้ และต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ โดย น.ส.กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ผู้ประสานงานกลุ่มเอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องจริง อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาสามารถทำไดาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 และกฎกระทรวงพาณิชย์ ฉบับที่ 22 พ.ศ. 2542 ว่าด้วยการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตรของพนักานเจ้าหน้าที่ ซึ่งสามารถยกคำขอได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ตรวจสอบเบื้องต้น การประกาศโฆษณา และการตรวจสิ่งประดิษฐ์ ซึ่งอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญาควรดำเนินการทันที หรืออย่างน้อยต้องออกมาแสดงต่อสาธารณชนว่าจะต้องดำเนินการอะไรบ้าง หากไม่ดำเนินการจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาอย่าง รมว.พาณิชย์และรัฐบาลจะต้องพิจารณาเอาผิด
“หากยังไม่ดำเนินการอีก จะสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรม และมหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งไม่สามารถทำวิจัยต่อไปได้ และได้รับความเสียหาย ฟ้องร้องทั้งต่อศาลปกครอง ในการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญญา เพราะคำขอสิทธิบัตรนั้น ขัดกฎหมายสิทธิบัตร ซึ่งภาคประชาสังคมพร้อมสนับสนุนข้อมูลต่าง ๆ ในการฟ้องร้อง และอาจระดมพลคนกัญชาที่จะได้รับผลกระทบจากการไม่ได้ใช้ประโยชน์กัญชาทางการแพทย์ ให้ยื่นฟ้องด้วย ” น.ส.กรรณิการ์กล่าว
ขณะที่ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ฉบับ สนช. 44 คนเสนอ ที่ผ่าน ครม.นั้น เป็นการปลดล็อกกัญชาและกระท่อมให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้เฉพาะในบางพื้นที่ที่ประกาศโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ให้เป็นพื้นที่เพาะปลูก วิจัย ทดลอง เสพและครอบครองได้ เช่นเดียวกับร่างประมวลกฎหมายยาเสพติดที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของ กมธ.พิจารณาร่างกฎหมาย ซึ่งจำเป็นต้องเลื่อนไปหนึ่งสัปดาห์ เพื่อรอการชี้แจงจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาในเรื่องสิทธิบัตร เนื่องจากมีบริษัทต่างชาติยื่นขอสิทธิบัตรแล้วถึง 10 บริษัท ซึ่งกรมฯ รับเอกสารไว้แล้วแต่ยังไม่สามารถอนุมัติให้จดสิทธิบัตรได้เพราะกัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 การจดสิทธิบัตรจะเป็นขั้นตอนและวิธีการสกัด Cannabinoid โดยเฉพาะ THC และ CBD ซึ่งเป็นสารอยู่ในกัญชา วิป สนช.จะเชิญข้าราชการกรมทรัพย์สินมาชี้แจงในวันอังคารหน้า เพราะการออกกฎหมายห้ามจดสิทธิบัตรอาจขัดต่อความตกลง TRIPS แต่ถ้าไม่ห้ามก็อาจทำให้นักวิจัยในประเทศไม่ได้รับประโยชน์ กลายเป็นออกกม.เอื้อต่อบริษัทต่างชาติ จึงต้องรอความชัดเจน และปรึกษานักกฎหมายเพื่อให้ผลประโยชน์เกิดกับคนไทยในประเทศ ซึ่งช้าไปสัปดาห์เดียว จะทำให้รอบคอบมากขึ้น น่าจะดีกว่า