ยกพลขึ้นบก! ตำรวจน้ำจับแก๊งค้ายาไอซ์คาสนามบินดอนเมือง ยึดยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ที่ผู้ต้องหาย่องไปโยนไว้ให้ข้างทางย่านพัฒนาการ
ของกลางยาไอซ์ จำนวน 30 กิโลกรัม ที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการตำรวจน้ำ ยึดได้จากนายอนิรุตต์ กระทง หรือหม่ำ และนายชัชชัย แต้มเก่ง ชาวเชียงราย หลังจากที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน นำยาไอซ์มาส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่บริเวณโคนเสาไฟฟ้าภายในหมู่บ้านเมืองทอง2 โครงการ3ซอย4 ซอยพัฒนาการ53 ถนนพัฒนาการ แขวง-เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. วันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะติดต่อเพื่อนำเงินไปมอบให้ หลังจากได้รับยาไอซ์ จำนวนดังกล่าวแล้ว โดยผู้ต้องหาได้นัดหมายกับเจ้าหน้าที่ให้นำเงินไปให้ที่ภายในห้องน้ำชาย ชั้น2 ทางเชื่อมระหว่างอาคาร1และอาคาร2 สนามบินดอนเมือง เวลา 13.20น. วานนี้ ก่อนที่จะถูกจับกุม
โดยพลตำรวจตรี ธนพล ศรีโสภา ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการตำรวจน้ำ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และทหาร ได้สืบสวนพฤติการณ์ค้ายาเสพติดของกลุ่มนักค้ายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว โดยสายลับได้รับแจ้งจากกลุ่มนักค้ายาเสพติดในจังหวัดเชียงรายว่า นายบี(นามสมมติ) เป็นผู้จัดหายาเสพติดจากแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมาเดือนสิงหาคม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสายลับเข้าไปเจรจาที่จังหวัดเชียงราย และได้นัดหมายที่จะซื้อขายยาไอซ์ จำนวน 50 กิโลกรัม แต่ตกลงกันไม่ได้จึงได้แยกย้ายเดินทางกลับเชียงราย
จนกระทั่งวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากนายบี ว่าจะนำยาไอซ์มาส่งมอบตามที่ได้เคยรับปากไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ล่อซื้อยาไอซ์จากนายบี จำนวน 30 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 280,000-300,000บาท และในวันที่ 30 เมษายน นายบี พร้อมนายอนิรุตต์ และนายชัชชัย เพื่อมาเจรจากับสายลับ และเจ้าหน้าที่เพื่อตกลงซื้อขายส่งยาไอซ์จำนวนดังกล่าว แต่นายบี ได้เดินทางกลับเชียงรายก่อน โดยเหลือนายอนิรุตต์ และนายชัชชัย ไว้เป็นตัวแทน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้รับของกลางยาไอซ์จึงได้ตรวจยึด และได้นัดหมายนายอนิรุตต์ และนายชัชชัย เพื่อนำเงินไปมอบให้ตามที่ตกลงกันไว้ที่บริเวณสนามบินดอนเมือง ก่อนที่จะอสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
ทั้งนี้ ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันกับพวกที่ยังไม่ถูกจับกุม มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” และแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้กับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ทราบตามลำดับ มาเพื่อสืบสวนขยายผล และเร่งติดตามตัวนายบี ที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีต่อไป