ย่าสุดทน พ่อแท้ๆติดยาบ้าทำอนาจารลูกในไส้วัย 8 ขวบ แจ้ง ตร.ตามรวบถึงในบ้าน ฝ่ายเด็กดีใจเสียงหลง “หนูเป็นอิสระแล้ว”
เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 13 เม.ย.61 ย่าวัย 53 ปีชาว อ.สวี จ.ชุมพร นำ ด.ญ.อิ้ง (นามสมมุติ) อายุ 8 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.พัฒนา กองช่าง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร เพื่อบันทึกการสอบสวนเบื้องต้นดำเนินคดีกับนายโอ๋ อายุ 31 ปี ลูกชาย กรณีล่วงละเมิดทางเพศด.ญ.อ.(นามสมมุติ)อายุ 8 ปี ลูกสาวแท้ๆจนเด็กผวาไม่กล้าเข้าใกล้ ซ้ำถูกข่มขู่ว่าจะฆ่าให้ตายถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น
พ.ต.ท.สายันต์ จันทมาศ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.สวี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วันเดียวกัน ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่ามีเหตุกักขังหน่วงเหนี่ยวที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 3 ต.ครน ซึ่งอยู่ติดกับถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวได้พบกับนายโอ๋ (ผู้ต้องหา)ขณะอยู่ในบ้านกับ ด.ญ.อิ้ง.(นามสมมุติ) เมื่อ ด.ญ.อิ้ง.เห็นเจ้าหน้าที่จึงร้องขอความช่วยเหลือและบอกว่านายอรรถพลฯ ผู้เป็นบิดา จับนม จับอวัยวะเพศและเอานิ้วสอดใส่ในอวัยวะเพศด้วยพร้อมกับกักขังไม่ให้ออกไปไหนมาไหน ต่อมาได้พบ ผู้เป็นย่าของด.ญ.อิ้ง. โดยยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงตอนตนไม่อยู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายโอ๋มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.สวี (ชั่วคราว) ต.ท่าหิน พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาว่า กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ทำอนาจารแก่บุคคลอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน และข่มขืนกระทำชำเราแก่บุคคลอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ส่วนนายโอ๋ ยังให้การปฏิเสธเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวฝากขังที่ สภ.ทุ่งตะโกต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำด.ญ.อ.ไปโรงพยาบาลสวี เพื่อหาร่องรอยถูกละเมิดทางเพศซึ่งต้องรอผลตรวจประมาณ 4-5 วัน
ผู้เป็นย่า เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวตนเองอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คน อาชีพกรีดยางพารา โดยเกิดเหตุครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคม 61 เวลาประมาณ 19.00 น.โดยหลานสาวบอกว่า พ่อได้ชวนให้ไปนอนในห้องด้วยกันแต่ระยะหลังรู้สึกว่าหลานสาวตนมีอาการแปลกๆผวาเวลาพ่อเรียกให้ไปนอนด้วยกันในห้อง ตนพยายามสอบถามแต่ตอนเรียกหลานสาวปิดปากเงียบไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งยอมรับว่าพ่อเอามือมาจับที่หน้าอก จับอวัยวะเพศ และบางครั้งเอานิ้วมือแหย่เข้าไป ทำอย่างนี้มาตลอด
จนล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.วันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้ไปร่วมงานศพที่หมู่บ้านใกล้เคียงและได้เลยไปนอนบ้านญาติกลับมาเช้าวันที่ 12 เมษายน ซึ่งก็ปล่อยให้พ่อลูกอยู่ด้วยกันตามลำพัง ตนจึงถามว่าพ่อได้ทำอะไรอีกหรือเปล่าหลานสาวบอกว่าพ่อทำอีก และบอกไม่ให้ออกไปไหนคนเดียว พ่อสั่งว่าอย่าเอาเรื่องไปบอกใครถ้าบอกจะฆ่าให้ตาย ครั้งนี้สุดจะทนจึงโทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่
ย่าของด.ญ.อิ้ง เล่าให้ฟังอีกว่า นายโอ๋ ลูกชายของตน ที่ล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวแท้ๆได้ลงคอ ปัจจุบันติดยาบ้างอมแงมเคยเข้าบำบัดรักษาตัวที่โรงพยาบาลสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ 2 ปีก่อน แต่ยาที่หมอให้มาก็ไม่กิน จะกินแต่ยาแก้ปวดและเสพยาบ้าอีก และมาระยะหลังราคาตกต่ำ จึงหยุดกรีดยาง จึงไม่มีเงินซื้อยาบ้ามาเสพ บางครั้งก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ไม่คิดว่าฤทธิ์ยาเสพติดจะทำลูกชายตนล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวตัวเองได้ถึงขนาดนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบปากคำนางอุษาฯอยู่นั้นโดยที่มีด.ญ.อิ้ง.นั่งอยู่ใกล้ๆจู่ได้ตะโกนขึ้นมาว่า “หนูเป็นอิสระแล้ว” ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในห้องต่างหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ก่อนญาติมีศักดิ์เป็นลุงที่เพิ่งจะเดินทางมาจากภูเก็ตกลับมาบ้านเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์มารับตัวย่าและ ด.ญ.อิ้ง.กลับ โดยย่า บอกอีกว่าหลังจากนี้จะทำเรื่องย้ายโรงเรียนไปเรียนต่างหมู่บ้านต่อไป