เกิดเหตุรถไฟบรรทุกน้ำมันขบวนลำปาง-สระบุรี พุ่งชนรถกระบะกระเด็นตกทุ่งนา ทำให้ลูกชายเสียชีวิตคาซากรถ ส่วนพ่ออายุประมาณ 60 ปี บาดเจ็บสาหัส
9 มี.ค.60 เวลา 12.30 น. พ.ต.ท.สมบัติ ศรีโมรา สว.(สอบสวน) สภ.วังน้ำคู้ จ.พิษณุโลกรับแจ้งมีรถไฟบรรทุกน้ำมันชนกับรถกระบะมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟ ม.2 บ.ท่าโรงตะวันออก ต.วัดพริก อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยข่าวภาพและกู้ชีพโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ ดีแม็กซ์ แบบแค๊ป สีดำ ทะเบียน ตต 7018 กทม. สภาพกระเด็นตกลงไปอยู่ในทุ่งนา ด้านข้างฝั่งคนขับถูกชนจนยุบเสียหายพังยับเยินเจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรทราบชื่อภายหลัง คือ นายเตือน ภูมิผล อายุประมาณ 60 ปี
นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตติดอยู่คาซากรถอีก 1 รายทราบชื่อต่อมา คือ นายไพรัช ภูมิพล อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 2/1 ม.7 ต.บ้านไร่ อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก บุตรชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ สภาพศพสวมเสื้อคอกลมแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงขายาวลายพรางทหารมีบาดแผลฉีกขาดฉกรรจ์ เลือดไหลอาบทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยกันนำร่างส่งชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช รพ.มหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนรถไฟบรรทุกน้ำมันที่ชนกับรถกระบะคันเกิดเหตุ คือ รถขบวนที่ 644 ลำปาง – สระบุรี หลังเกิดเหตุพนักงานขับรถไฟได้ไปจอดเทียบชานชาลาที่สถานีรถไฟบ้านใหม่เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
จากการสอบสวนเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ขณะที่ นายไพรัช ผู้เสียชีวิต กำลังขับรถมาพร้อมกับนายเตือนเพื่อไปทำธุระในตัวเมืองพิษณุโลก ระหว่างทางขับมาถึงจุดตัดทางข้ามรถไฟซึ่งเป็นเนินดินสูงประกอบกับจุดดังกล่าวเป็นทางกั้นรถไฟอัตโนมัติแต่ยังไม่เปิดให้ใช้งานจึงไม่ทันระวัง และข้ามในระยะกระชั้นชิดถูกรถไฟบรรทุกน้ำมันที่แล่นมาด้วยความเร็วพุ่งชนเข้าข้างคนขับอย่างจังเสียงดังสนั่น ส่งผลทำให้รถเสียหลักพุ่งกระเด็นตกลงไปทุ่งนาข้างทาง จากนั้นมีชาวบ้านใกล้เคียงเห็นเหตุการณ์รีบวิ่งไปช่วยเหลือพร้อมกับโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป