เป็นเรื่องเป็นราว! ตร.จับหนุ่มขายกัญชาทางไปรษณีย์ ยึดของกลางได้ครบวงจร ทั้งกัญชาอัดแท่งน้ำหนักกว่า 21 กก. มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท อึ้ง! พบกำลังเพาะต้นอ่อนสายพันธุ์ดี นำเข้าจากอัมสเตอร์ดัมด้วย
ที่ สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (23 ก.ค.) พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ นาลา รอง ผบก.น.5 พร้อมตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมนายพงษ์ธร หรือบ่น สุขกูล อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาในคดี เป็นเอเย่นต์ขายกัญชา ส่งขายผ่านบริษัทบริการส่งพัสดุชื่อดัง มีของกลางกัญชาแห้ง และกัญชาต้น น้ำหนักกว่า 21 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 2 แสนบาท
พ.ต.อ. เกียรติพงษ์ ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตำรวจพบตัวนายพงษ์ธร หรือบ่น สุขกูล อายุ 28 ปี สัญชาติไทย อาการมีพิรุธ จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น แต่ผลการตรวจไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่นายพงษ์ธร รับสารภาพ ว่า เพิ่งเสพกัญชามา และรับสารภาพว่ามีกัญชาซุกซ่อนในบ้านพักที่บริเวณบ้านเลขที่ 29/26 ซอยบ้านกล้วยไม้ใต้ แยกแสงจันทร์ ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ตำรวจจึงเข้าทำการตรวจค้น พบของกลางเป็นกัญชากว่า 21 กิโลกรัม ต้นอ่อนกัญชา ตู้ปรับอุณหภูมิสำหรับปลูกกัญชา อุปกรณ์ที่ใช้ในการเพาะต้นกัญชา เครื่องชั่งดิจิตอลสำหรับแบ่งบรรจุ และซองสำหรับบรรจุกัญชา จึงแจ้งข้อกล่าวหา “ผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) โดยผิดกฎหมาย”
พ.ต.อ.เกียรติพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหารับกัญชามาจากเครือข่ายผ่านทางไลน์ และเฟซบุ๊ค รับมากิโลกรัมละ 7,500 บาท โดยรับมาครั้งละประมาณ 5-10 กิโลกรัม นำมาขายต่อในราคากิโลกรัมละ 9,000-10,000 บาท มีทั้งกัญชา และกัญชาอัดแท่ง เกรด A ที่มีราคาสูง และส่งขายผ่านทางไปรษณีย์ ทำคนเดียวและขายมากว่า 1 ปีแล้ว ทั้งนี้ผู้ต้องหาได้ซื้อเมล็ดกัญชามาทดลองปลูกในบ้านพักของตนเองด้วย โดยเมล็ดที่นำมาปลูกนั้น เป็นเมล็ดกัญชาสายพันธุ์ดี นำเข้ามาจากอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์
อย่างไรก็ตามในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์นั้น การค้าขายกัญชา ไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย จึงจัดส่งไปที่ใดก็ได้ เพียงแต่ระบบการตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายผ่านทางไปรษณีย์ของไทย ตรวจสอบได้ค่อนข้างยาก ทั้งนี้ผู้สั่งซื้อจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและนักดนตรี จึงได้มีการประสานกับบริษัทให้บริการส่งของผ่านไปรษณีย์ ให้มีความเข้มข้นในการตรวจตราสิ่งผิดกฎหมายมากขึ้น