รวบแล้ว! 2หนุ่มปากีสถาน ทำทีซื้อแหวนทองหนักครึ่งสลึง ก่อนฉกสร้อยข้อมือหนัก 5 บาท ที่สุราษฎร์ธานี หลังก่อเหตุหนีกบดานที่ข้าวสาร แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับโดยละม่อม
ภาพวงจรปิดภายในร้านทองแม่มาลี อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี จับภาพเหตุการณ์ขณะที่นักท่องเที่ยวชาย 2 คน ลักษณะเหมือนแขกขาว คนหนึ่งรูปร่างอ้วน สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว ส่วนอีกคนหนึ่งรูปร่างสันทัด สวมเสื้อกล้ามสีส้ม ใส่กางเกงขาสั้นแค่เข่า เมื่อเวลาประมาณเที่ยงวานนี้ (20 มิ.ย.61) โดยทำทีซื้อแหวนทองครึ่งสลึงจากพนักงาน จากนั้นก็ชวนพนักงานที่ร้านคุยเป็นภาษาอังกฤษสลับกับภาษาไทย ทำทีเป็นต่อรองราคา เพื่อดึงดูดความสนใจ ก่อนจะขอดูสร้อยข้อมือทอง น้ำหนัก 5 บาท โดยพนักงานได้หยิบสร้อยข้อมือวางบนตู้ทอง ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยจังหวะที่พนักงานร้านเผลอ หยิบสร้อยข้อมือทองคำเส้นดังกล่าว โดยเอากระเป๋าเงินทับสร้อยทองไว้ แล้วเก็บใส่ในกำมือ จากนั้นคนร้ายจะตกลงจ่ายเงินซื้อสร้อยเส้นเล็ก และเดินออกจากร้านไป พร้อมกับสร้อยที่แอบหยิบมาซึ่งมีมูลค่ามากกว่า
โดยพนักงานร้านมารู้ตัวอีกทีตอนที่เช็กสต๊อกสินค้าในช่วงปิดร้าน ซึ่งทางเจ้าของร้านทองจึงได้นำภาพวงจรปิดดังกล่าวไปโพสต์ลงในโซเชียล จนทราบว่านักท่องเที่ยวทั้ง 2 คน ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายร้านในพื้นที่ ก่อนจะนำภาพวงจรปิดเข้าแจ้งความกับตำรวจ
ล่าสุด พลตำรวจตรีสมพงษ์ ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับตำรวจนครบาลชนะสงคราม สามารถจับกุมตัวนายอัลลาห์ บัคเคอร์ และมูฮัมหมัด บาสเซอร์ 2 นักท่องเที่ยวชาวปากีสถานที่ปรากฏในภาพวงจรปิดได้ หลังจากสืบทราบว่าทั้งคู่ ได้เข้าประเทศไทยมาเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา และไปเช่ารถยนต์ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ก่อนจะลงไปตระเวนก่อเหตุตามร้านทองในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดใกล้เคียง ก่อนจะหลบหนีขึ้นมาที่กรุงเทพมหานคร โดยตำรวจไปพบรถยนต์ที่คนร้ายเช่ามาจอดทิ้งไว้บริเวณถนนข้าวสาร ก่อนจะตามไปเจอคนร้ายทั้ง 2 คน กำลังเที่ยวอยู่ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จึงได้เข้าตรวจค้นพบสร้อยทองของกลางที่ขโมยมาจากร้านทองแม่มาลี
นอกจากนี้ ยังเจอนาฬิกาที่เชื่อว่าคนร้ายน่าจะลักทรัพย์จากร้านทองที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาด้วย ตำรวจจึงคุมตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก ก่อนส่งตัวกลับไปที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ต่อไป