17 มี.ค.60 พ.อ.ชัยวิทย์ พิมพ์ทอง รองผู้อำนวยการกองข่าวภัยแทรกซ้อน พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ กอง 12 ศูนย์รักษาความปลอดภัย บก.ทท. และเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย ร.15123 ฉก.นราธิวาส 30 ได้ร่วมสนธิกำลังจับกุมชาวโรฮิงญาจำนวน 27 คน เป็นชาย 22 คน หญิง 3 คน และเด็ก 2 คน ขณะหลบซ่อนตัวอยู่ในรถบรรทุก 10 ล้อ อีซูซุ สีฟ้า ทะเบียน 70-1066 พัทลุง ที่มีผ้าใบปิดช่วงท้ายกระบะอย่างมิดชิด โดยรถคันดังกล่าวมี นายสมรักษ์ ปิ่นสังข์ อายุ 43 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช เป็นคนขับและมีบุตรชาย1คน นั่งมาด้วย
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากการข่าวของฝ่ายทหารแจ้งว่า จะมีเครือข่ายค้ามนุษย์ขนชาวโรฮิงยาไปส่งชายแดนมาเลเซีย ทาง ตม.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ กอง 12 ศูนย์รักษาความปลอดภัย บก.ทท. จึงทำการตั้งด่านร่วมกันบริเวณด่านตรวจบ้านโคกมะเฟือง ม.1 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กระทั่งตรวจค้นจับกุมทั้งหมดได้ดังกล่าว ภายหลังคุมตัวไปสอบสวนยัง สภ.ตากใบ ซึ่ง นายสมรักษ์ ให้การว่าได้โกหกเถ้าแก่ว่าไปรับจ้างพิเศษขนสินค้าจากกทม. ไปส่งยังที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ได้เป็นสินค้าแต่อย่างใด กลับเป็นกลุ่มชาวโรฮิงยาโดยรับเงินค่าจ้างเที่ยวละ 30,000 บาท เคยทำสำเร็จมาแล้ว 3 ครั้งก่อนจะถูกจับกุมได้ดังกล่าว
ขณะที่ชาวโรฮิงญารายหนึ่งระบุผ่านล่าม ว่า ตนเองกับพวกหลบหนีจากประเทศเมียนมาข้ามแดนด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก โดยเสียเงินค่านายหน้าเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีค่าหัวรายละ 15,000 บาท ด้วยการแอบลักลอบนั่งรถบรรทุก 6 ล้อ เข้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะนั่งรถ 10 ล้อที่ถูกจับกุม เดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย โดยจะข้ามเรือที่ช่องทางข้ามริมพรมแดนในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เข้าเข้าพื้นที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยจะมีนายหน้าชาวมาเลเซียเดินทางมารับ เพื่อไปทำงานตามที่ต่าง ๆ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน นายสมรักษ์ ปิ่นสังข์ และบุตรชาย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลถึงขบวนการเครือข่ายค้ามนุษย์ ที่กรมทหารพรานที่ 46 อ.เมืองนราธิวาส เพื่อที่จะขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการค้ามนุษย์ให้สิ้นซาก ก่อนที่จะจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป