ระทึก! เด็กชายหน้าตาดีวัย 17 ปี หนีจากสถานสงเคราะห์ ยืนถืออีโต้ และมีดปลายแหลม ตัดพ้อไม่มีใครรัก ด้านหญิงหัวหน้าฝ่ายปกครองบ้านราชาวดี (ชาย) ปากเกร็ด เข้าเจรจา เด็กหนุ่มท้าสาบาน “รับตนเป็นลูกบุญธรรม” ตอนจบกอดกันกลม และกราบเท้าซาบซึ้งที่มีคนเข้าใจ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 29 ม.ค.62 ขณะที่ พ.ต.ท.ชนาธิป พานทอง สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ออกตรวจพื้นที่ภายในเขตรับผิดชอบได้รับแจ้งเหตุชายมีอาวุธภายในบ้านราชาวดี (ชาย) ปากเกร็ด ถนนภูมิเวท อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบพบนายนุ๊ก อายุ 17 ปี เด็กหนุ่มรูปหล่อ ได้วิ่งหลบหนีออกจากประตูรั้วไปยังถนนซอยซึ่งอยู่หน้าบ้านราชาวดี (ชาย) โดยในมือซ้ายถือมีดปลายแหลม ส่วนมือขวาถืออีโต้ พูดจาข่มขู่ไม่ให้ใครเข้าใกล้ถ้าหากเข้ามาจะทำร้าย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพียงยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆพร้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธมีดแต่นายนุ๊กไม่ฟัง ยังคงพูดจาพร่ำเพ้อตัดพ้อว่าไม่มีใครรัก พ่อแม่ไม่ตั้งใจให้เกิดเลยนำตนมาทิ้งไว้ที่บ้านราชาวดี (ชาย) แห่งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดถนนไม่ให้รถเข้าออกพร้อมทั้งห้ามผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในซอยอย่างเด็ดขาด
เวลาผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วโมงนายนุ๊กก็ยังไม่ยอมวางอาวุธมีดแถมยังเดินไปเดินมาพร้อมชูมีดกวัดแกว่งเป็นที่น่ากลัว พร้อมขอน้ำแดงมาดื่มแก้คอแห้ง เจ้าหน้าที่จึงจัดให้ดื่มตามคำขอ ต่อมานางสาวพัทธิอร กาฬสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายปกครองของบ้านราชาวดีชายได้เข้ามาเกลี้ยกล่อมนายนุ๊กด้วยตนเองโดยนายนุ๊กขอให้นางสาวพัทธิอร รับเป็นลูกบุญธรรมและต้องสาบานหากผิดคำพูดขอให้มีอันเป็นไป ซึ่งนางสาวพัทธิอรก็ยินยอมสาบานพร้อมขอร้องให้วางมีดเพราะสาบานตามที่ขอแล้ว นายนุ๊กได้แต่ร้องไห้พร้อมทั้งวางมีดตรงเข้าสวมกอดและไหว้ลงที่เท้าของนางสาวพัทธิอรท่ามกลางเสียงตบมือและความดีใจของเหล่าไทยมุงและเจ้าหน้าที่ต่างโล่งใจไปตามๆกัน
พ.ต.ท.ชานธิป พานทอง สว.สส.ปากเกร็ด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของบ้านราชาวดีชายแล้วเห็นพ้องต้องกันว่าต้องนำนายนุ๊กส่ง รพ.ศรีธัญญา เนื่องจากมีประวัติการักษาอาการเครียดที่นี่โดยเข้าทำการรักษามากว่าเดือนแล้วจนอาการดีขึ้นและเพิ่งกลับมาช่วงเช้าของวันนี้เองแต่นายนุ๊กกลับมีอาการเครียดขึ้นมาอีกเพราะคิดว่าไม่มีใครรัก พ่อแม่ไม่สนใจตัวเองนำมาทิ้งไว้ที่สถานที่แห่งนี้ได้ปีกว่าแล้ว จึงเกิดอาการกำเริบก่อเหตุขึ้นมาซึ่งนายนุ๊กเองนั้นเคยกระทำในลักษณะนี้มาแล้วสองครั้งครั้งนี้เป็นครั้งที่สามเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจส่งตัวกลับเข้า รพ.ศรีธัญญาเพื่อบำบัดรักษาอาการให้ดีขึ้น