เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนกัน จนทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้รถบรรทุก เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงฉีดน้ำสกัด
วันนี้ (16 ธ.ค. 60) เมื่อเวลา 00.10 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดอุบัติเหตุที่บริเวณกิโลเมตรที่ 82 บนถนนสาย 7 ตอน 2 ตำบลหนองข้างคอก อำเภอเมืองชลบุรี และมีไฟไหม้รถอย่างรุนแรง จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหนองข้างคอก ให้ไปดับเพลิงในจุดเกิดเหตุ ซึ่งรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อยี่ห้อวอลโว่ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
ในที่เกิดเหตุพบ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อวอลโว่ ส่วนหัวถูกไฟไหม้เสียหาย และที่ท้ายรถพบรถคู่กรณี เป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ นิสสัน
ผู้ขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ นิสสัน เล่าว่า ตนเองได้ขับรถไปรับสินค้าที่ท่าเรือแหลมฉบัง กำลังจะไปส่งสินค้าที่กรุงเทพมหานคร พอขับรถลงเนินลงมา ก็เห็นรถพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อวอลโว่ จอดอยู่ไหล่ถนน จึงทำให้เบรกไม่ทัน พุ่งชนเข้าอย่างเต็มแรง จนเกิดไฟไหม้ขึ้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้มีสกัด และเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว
ขณะที่ เวลา 05.00 น. เกิดอุบัติเหตุรถชนกันบนทางด่วนพิเศษฉลองรัช แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ มีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก เสียชีวิต 1 ราย
จุดที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน อยู่บริเวณทางขึ้นทางด่วนมุ่งหน้าจตุโชติ กม. ที่ 22+900 ฝั่งขาออก บริเวณเลนซ้ายสุดพบรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า สภาพบริเวณหน้ารถพังยับเยิน ผู้ขับได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าอก ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สภาพโดนชนท้ายรถด้านขวา ข้างตัวรถได้รับความเสียหายจากการกระแทกกับแท่งแบริเออร์ข้างทาง ผู้ขับได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังพบชาย 1 คน ซึ่งนั่งอยู่ข้างคนขับ หมดสติอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องนำตัวออกมา ก่อนที่ชายดังกล่าวจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นอกจากนี้บริเวณที่เกิดเหตุโดยรอบ ยังพบผู้บาดเจ็บนอนเกลื่อนบนถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบนำผู้บาดเจ็บหลบเข้าข้างทาง เพื่อทำการปฐมพยาบาล ก่อนนำผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาล โดยมีผู้บาดเจ็บ จำนวน 13 คน
จากการสอบถามผู้ขับรถยนต์ ยี่ห้อมาสด้า กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังเดินทางกลับที่พักย่านปทุมธานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนเกิดอาการวูบไป ก่อนจะมารู้สึกตัวอีกที รถของตนก็ชนท้ายกระบะเข้าอย่างแรง จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าวแล้ว
ด้านผู้ขับรถกระบะ กล่าวว่า ตนเพิ่งรับคนงาน จำนวน 10 กว่าคน มาจากย่านประตูน้ำ เพื่อเดินทางไปทำงานที่ย่านสายไหม เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังขับรถอยู่ที่เลนซ้ายสุด จู่ๆก็มีรถยนต์พุ่งมาชนด้านท้ายรถอย่างแรง จนทำให้รถเสียหลักชนเข้ากับแบริเออร์ข้างทาง
ด้าน พ.ต.ท.พลัฏฐ์ ทับทิม รองผกก.(สอบสวน) สน.ทางด่วน1 กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด เพราะต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อน หลังจากนี้จะต้องมีการตรวจเลือด เพื่อวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำมาสรุปสำนวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
ส่วนชายที่เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น 1 ในคนงาน ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใครเนื่องจากไม่พบเอกสารระบุตัวตน ซึ่งจะต้องนำศพส่งโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิต และพิสูจน์บุคคลจากลายนิ้วมือว่าเป็นใคร ก่อนจะทำการติดต่อญาติให้มารับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป