รัฐบาลญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ประกาศวันสละราชสมบัติของ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ในวันที่ 30 เมษายน 2562
วันนี้ (1 ธ.ค.60) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เป็นประธานในการประชุมพิเศษของสภาราชสำนักอิมพีเรียล ประกอบด้วย สมาชิกสภา เชื้อพระวงศ์ ผู้พิพากษาศาลยุติธรรมสูงสุดและรัฐบาล เพื่อหารือรับฟังความเห็นในการเลือกวันสละราชสมบัติของ สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ ซึ่งในที่ประชุมฯ มีมติเห็นชอบเลือกให้วันที่ 30 เมษายน 2562 เป็นวันพิธีสละราชสมบัติ โดยเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกในรอบ 2 ร้อยปีที่สละราชสมบัติต่อจาก สมเด็จพระจักรพรรดิโกกะคุ ซึ่งสละราชสมบัติเมื่อ ค.ศ.1817 (พ.ศ.2360)
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยกับสื่อมวลชนหลังการประชุมเสร็จสิ้น ว่า นี่คือการสละราชสมบัติของสมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์แรกในรอบ 200 ปี และพระองค์แรกภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ตนรู้สึกท่วมท้นอย่างยิ่งว่าวันนี้ ความเห็นของสภาราชสำนักอิมพีเรียลได้ตัดสินใจอย่างนุ่มนวลและเป็นก้าวสำคัญสู่การสืบราชสมบัติ อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนของญี่ปุ่นรายงานว่า คณะรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 8 ธ.ค. นี้
ทั้งนี้ สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ ในพระชนมายุใกล้ 84 พรรษา พร้อมกับ สมเด็จพระจักรพรรดินีมิจิโกะ ได้แสดงบทบาทสานสัมพันธ์กับมิตรประเทศพร้อมกับเยียวยาบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เกิดขึ้นในรัชสมัยของ สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโตะ พระราชบิดา และพบปะกับพสกนิกรชาวญี่ปุ่นที่ประสบภัยด้วยพระอิริยาบถเรียบง่ายและถ่อมตัว จึงเป็นที่เคารพและชื่นชมจากประชาชนอย่างสูง โดยสมเด็จพระจักรพรรดิทรงตรัสบ่อยครั้งเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นอย่าลืมความน่ากลัวของสงคราม
อย่างไรก็ตาม ด้วยพระชนมายุที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีอาการประชวรต่าง ๆ ทำให้พระองค์กังวลว่าอาจจะไม่สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้ดีเหมือนก่อน ทั้งนี้ กฎหมายฉบับใหม่ของญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้สมเด็จพระจักรพรรดิ สามารถสละราชสมบัติได้ ทำให้ เจ้าชายนารุฮิโตะ มกุฎราชกุมาร จะทรงขึ้นครองราชย์ต่อไป