ลูกเทพจอมทุบรถกว่า 10 คัน กราบเท้าขอโทษแม่ หลังรับเงิน 300,000 บาทจากแม่บังเกิดเกล้า นำไปเป็นทุนเรียนปริญญาตรี และซื้ออุปกรณ์ชกมวย โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่แม่จะมอบให้แก่ลูกเทพ วอนสังคมชาวศรีสะเกษให้โอกาสลูกเทพกลับตัวเป็นคนดีเมื่อวันที่ 18 ต.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายไพฑูรย์ คล้ายมั่ง หัวหน้าสำนักงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และคณะเจ้าหน้าที่ ได้เป็นคนกลางในการที่นายเจต(นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ฉายาลูกเทพ ที่เป็นข่าวโด่งดังจากกรณีที่บุกเข้าไปทุบรถ และเผารถในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ศรีสะเกษ เขต 1 กว่า 10 คัน เพื่อประชดที่ขอเงินแม่ไม่ได้ และ นางรุ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ได้พร้อมใจ เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยผู้เป็นแม่ได้มอบเงินก้อนสุดท้าย จำนวน 300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) ให้แก่นายเจต เพื่อเป็นทุนการศึกษาระดับปริญญาตรี และนำไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนชกมวยสากล พร้อมทั้งนำไปซื้อกล้องในการเรียนถ่ายภาพ และใช้อื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา นางรุ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นแม่ของลูกเทพได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษว่า นายเจต(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นบุตรของตน ได้ขอเงินจากตนหลายครั้ง ครั้งละจำนวนมาก เมื่อตนปฏิเสธ นายเจตมักจะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง และก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนและผู้อื่น รวมทั้งกรณีที่ก่อเหตุทุบรถยนต์ประชาชนเพื่อเป็นการประชดมารดา บ่อยครั้งตามที่เคยมีการเสนอข่าวทางสื่อมวลชนด้วย จนทำให้นางรุ ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย อับอาย และหวาดระแวง ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุข โดยในช่วงหลังมานี้ นายเจตได้ขอเงินจากนางรุ จำนวน 300,000 (สามแสนบาทถ้วน) ซึ่งนางรุกังวลใจว่า หากไม่ยินยอมมอบเงินให้แก่นายเจต อาจจะมีอาการเครียดและก่อเหตุรุนแรงจนอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อนเหมือนดังเช่นในอดีตที่ผ่านมา แม้ว่านายเจต เคยให้คำมั่นสัญญากับนางรุว่า จะไม่ใช้วิธีประชดในการขอเงินด้วยวิธีรุนแรงเหมือนในอดีตก็ตามนายไพฑูรย์ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งทั้งนางรุและนายเจต ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อช่วยเป็นพยานในการมอบเงินให้แก่นายเจต โดยเงินดังกล่าว นายเจต จะนำไปใช้เป็นทุนในการศึกษาซึ่งขณะนี้ได้ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๒ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง นำไปซื้ออุปกรณ์ในการเรียนชกมวยสากล ซึ่งขณะนี้ได้ไปฝึกซ้อมที่สถาบันพลศึกษาศรีสะเกษ นำไปซื้อกล้องถ่ายภาพ ใช้จ่ายในการเรียนถ่ายภาพ และใช้อื่นๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยนายเจต ขอสังคมให้โอกาส กลับตนเป็นคนดี ซึ่งตนได้ให้ทำบันทึกข้อตกลงไว้ต่อกัน ดังนี้1. บุตรขอรับเงินจากมารดาจำนวน300,000 บาท (สามแสนบาทถ้วน) และมารดาตกลงว่าจะมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่บุตรตามความประสงค์ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ โดยเงินดังกล่าวเป็นเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตที่จะมอบให้แก่บุตร
2. บุตรได้รับเงินจากมารดาตามข้อ1 ครบถ้วนตามความประสงค์แล้ว โดยนับจากนี้เป็นต้นไป หากบุตรยังคงรบกวนมารดาไม่ว่าโดยวิธีการใด ไม่ว่าการรบกวนนั้นจะเป็นไปเพื่อให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินของมารดาหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดก็ตาม หากการรบกวนดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตามปกติสุขหรือเป็นการละเมิดสิทธิของมารดาหรือบุคคลอื่น มารดาย่อมทรงไว้สิทธิเด็ดขาดในการดำเนินการกับบุตรทั้งโดยกระบวนการยุติธรรมทางแพ่งและทางอาญาจนถึงที่สุด
3. นอกจากความตกลงที่บุตรให้ไว้กับมารดาในวันนี้แล้ว บุตรขอสาบานต่อองค์พระราชานุสาวรีย์และดวงพระวิญญาณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่5 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษด้วยข้อความต่อไปนี้ว่า “ข้าพเจ้า นายเจต(นามสมมุติ) จะขอรับเงินจาก นางรุ(นามสมมุติ) มารดาของข้าพเจ้าในวันนี้เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตข้าพเจ้า โดยข้าพเจ้าจะไม่รบกวนมารดาของข้าพเจ้าทั้งในทางทรัพย์สินและในทางอื่นใดให้มารดาของข้าพเจ้าต้องเดือดเนื้อร้อนใจอีกต่อไป และจะไม่ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นไม่ว่าในทางใดๆ นอกจากนี้ข้าพเจ้าจะใช้จ่ายเงินที่ได้รับจากมารดาของข้าพเจ้าในวันนี้ ไปในทางที่ถูกต้องเหมาะสม ประหยัด มัธยัสถ์ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตของข้าพเจ้า หากข้าพเจ้าผิดต่อคำสาบานที่ให้ไว้นี้ ขอให้ข้าพเจ้าถูกลงโทษทั้งโดยกฎหมายและกฎแห่งกรรมอย่างสาสม อย่าได้ประสบพบเจอกับความสุขความเจริญ แต่หากข้าพเจ้าปฏิบัติตามที่สาบานไว้โดยครบถ้วน ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าตลอดทั้งชาตินี้พบแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ”
4. บุตรรับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า บุตรเป็นบุคคลที่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายแล้วมารดาจึงไม่มีหน้าที่ที่จักต้องเลี้ยงดูผู้ถูกร้องไม่ว่าในทางใดๆ อีกต่อไป สิ่งใดที่บุตรจะพึงได้รับจากมารดาหลังจากนี้ ย่อมเป็นความพอใจของมารดาแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งบุตรไม่สามารถโต้แย้ง เรียกร้อง หรือบังคับข่มขู่เอาจากผู้ร้องหรือบุคคลอื่นได้แต่อย่างใดนายไพฑูรย์ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่นายเจต ได้รับเงินจำนวน 300,000 บาทจากแม่ไว้ในกำมือแล้ว นายเจต ได้เข้าไปกราบเท้าแม่และกอดแม่ ทำให้นางรุ ถึงกับน้ำตาไหลอาบแก้ม จากนั้น ทั้งแม่และลูก ได้แยกย้ายกันกลับไป ซึ่งเรื่องนี้ตนได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบแล้ว