สุดทราบซึ้งสองแม่ลูกที่พลัดพรากจากกันมาเกือบ33 ปี ได้พบกันเป็นครั้งแรกน้ำตาท่วม โผเข้ากอดร่ำให้ด้วยความดีใจ ต่างฝ่ายต่างคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วในชาตินี้
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณทุ่ม 3 ที่ผ่านมา นางวิภาวดี ธิสอน หรือพี่กล้วย อายุ 54 ปี ชาวจ.อุดรธานี ได้ไปรอรับลูกชายของเธอที่สถานีขนส่งอำเภอหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเดินทางมาจาก จ.เชียงราย ด้วยรถทัวร์โดยสาร2วันสองคืน โดยเธอทั้งตื่นเต้นและดีใจที่จะได้พบหน้าลูกชายเป็นครั้งแรกในรอบ33ปี หลังจากที่คิดถึงอย่างสุดชีวิต และพยายามตามหาจนพบกันในเฟสบุ๊คเมื่อ4 วันก่อนและลูกชายของเธอเดินทางมาหาที่อ.หาดใหญ่ ซึ่งตลอดการเดินทางจากจ.เชียง มายังอ.หาดใหญ่ ได้มีการติดต่อกันทางไลน์เป็นระยะ
และทันทีที่รถทัวร์โดยสารมาถึงและเข้ามาจอดที่ชานชลาที่14 ของสถานีขนส่งอหาดใหญ่ เธอถึงกับนั่งไม่ติดและได้ไปชะเง้อดูลูกชายด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุขของคนเป็นแม่ ซึ่งลูกชายเดินทางมากับป้าและเพื่อนรวม3 คน และทันทีที่ทั้งสองฝ่ายเจอกัน เธอได้เข้าไปโผกอดกับ นางจำดี ไชยคุตร อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวอดีตสามีและต่างร่ำให้โดยเธอได้นำพวงมาลัยที่เตรียมมาไปไหว้ด้วยความเคารพ
จากนั้นก็มาถึงวินาทีสำคัญซึ่งเธอได้พบหน้ากับ นายปริญญา ธิสอน อายุ 36 ปี หรือโอ๊ด ลูกชายที่เดินเข้ามาคุกเข่าต่อหน้าและทั้งสองคนสวมกอดร่ำให้ด้วยความอบอุ่นและพร่ำบอกถึงความรักและความคิดถึงที่มีต่อกัน โดยเธอได้ซื้อนาฬิกามารับขวัญลูกชายซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่าจะไม่มีวันพรากกันอีกแล้ว และพากันเดินทางไปที่บ้านพักเลขที่ 74 ซอยสามสกุล อ.หาดใหญ่ ซึ่งมีการทำขนมจีนไว้รอรับ ซึ่งเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างมาแสดงความยินดีกับเธอ
นางวิภาวดี หรือพี่กล้วย บอกว่า ตอนที่ลูกชายอายุได้3ขวบมีปัญหาครอบครัวจนต้องเลิกกับสามี ช่วงแรกๆได้พบกับลูกบ้างแต่ค่อนข้างลำบากเพราะตนทำงานที่กรุงเทพฯส่วนลูกอยู่กับครอบครัวสามีที่บ้านในเวียง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย แต่ด้วยชีวิตช่วงนั้นที่ค่อนข้างลำบากและต้องระเหเร่ร่อนทำงานไม่เป็นหลักแหล่งทั้งกรุงเทพฯ ภูเก็ต และปัจจุบันไปๆมาระหว่างหาดใหญ่กับสิงคโปร์เพราะไปเปิดร้านอาหารอยู่ที่สิงคโปร์ และเมื่อชีวิตเริ่มนิ่งจึงพยายามตามหาลูกชายที่ยังอยู่ในหัวใจเสมือ จนพบกันในที่สุดหลังจากที่ได้ค้นหาชื่อลูกชายในเฟสบุ๊คและชื่อก็เด้งขึ้นมาทันที และเมื่อพูดคุยสอบถามเรื่องราวทำให้รู้ว่าเป็นแม่ลูกกันจริงๆ ต่างฝ่ายต่างร้องให้โฮออกมา และนัดพบกันที่อ.หาดใหญ่
นางวิภาวดี กล่าวว่า ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้พบกับลูกชายและรู้สึกผิดมาตลอดชีวิต ที่ไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดู แต่ที่ดีใจที่สุดคือลูกชายไม่ได้โกรธและให้อภัยและพยายามตามหาตนเช่นกัน ส่วน นายปริญญา บอกว่า ดีใจมากที่ได้พบกับแม่บังเกิดเกล้าเพราะคิดว่าแม่ได้ตายไปแล้ว และได้ทำบุญไปให้ตลอด และไม่เคยคิดโกรธแม่ที่ไม่ได้เลี้ยงดูมา แม้ต้องอาศัยอยู่กับป้าเพราะพ่อแม่แยกทางกัน โดยหลังจากนี้จะดูแลแม่ให้ดีที่สุดและจะไม่มีวันพรากจากกันอีกแล้ว