ศึกชิงหลาน หลังพ่อแม่แยกทางกัน ปู่กับพ่อเด็กไปรับหลานที่ฝ่ายแม่เด็กฝากเลี้ยงไว้ ฝ่ายพี่ชายแม่เด็กทราบเรื่องไม่ยอมไล่ตามทุบรถเละ โดยมีภาพคลิปที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือภายในรถถ่ายไว้ได้
นี่คือภาพจากโทรศัพท์มือถือที่ถ่ายภายในรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีน้ำเงิน ทะเบียน บบ 509 ชลบุรี ถ่ายให้เห็นมีรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทาดำ ทะเบียน งท 8024 ชลบุรี ขับมาปาดหน้าแล้วมีผู้ชายเคาะรอบรถให้เปิดประตูตั้งแต่บนถนนสายวัดท้องคุ้ง – วัดนาเขื่อน ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี และยังมีผู้ชายอีกคนคว้าก้อนหินทุบมาที่กระจกหน้ารถอีกด้วย ต่อจากนั้นแล้วรถก็เคลื่อนตัวออกไป โดยผู้ชายคนดังกล่าวกระโดดเกาะหน้ารถไปด้วย
ซึ่งภายในรถทั้งผู้ชายและผู้หญิงร้องตะโกนให้คนช่วยตลอดทาง และเสียงบอกว่าได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ให้ป๊าขับตรงไปเรื่อยๆ ผู้ชายคนที่เกาะหน้ารถได้ใช้มือทุบรถแล้วไปนั่งที่กระบะหลัง รถกระบะได้วิ่งมาตามเส้นทางซอย 12 แล้วออกผ่านหน้าวัดศรีสำราญจิต มาออกถนนเศรษฐกิจ แล้วสุดท้ายรถเก๋งคันที่จอดปาดหน้าได้ตามมาปาดให้จอด รถกระบะก็จอดเพราะเห็นว่ามีชาวบ้านและกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ ขับตามมาด้วยพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี สภาพรถกระบะกระจกบังลมหน้ารถแตกกระจกด้านข้างคนขับแตกหลุดออกมาทั้งบาน ระยะทางที่ทะเลาะกันเกาะรถมากว่า 10 กิโลเมตร
หลังรถจอดภายในรถกระบะมีนายโกศล ภักดีวุฒิพงษ์ อายุ 64 ปี มีแผลแตกที่ศรีษะเป็นคนขับมีนางเอ ( นามสมมุติ ) ภรรยานายโกศล น.ส.สวย ( นามสมมุติ ) ลูกสาวและ ด.ญ.น้ำหวาน ( นามสมมุติ ) อายุ 1 ขวบ 10 เดือน นั่งในรถ โดยนายโกศล เผยว่า ตนเป็นปู่ ด.ญ.น้ำหวาน ซึ่งพ่อกับแม่เด็กทะเลาะกันแล้วแยกกันอยู่ได้ประมาณ 5 เดือน แม่ของเด็กได้นำเด็กไปอยู่ด้วย วันนี้ตนไปรับหลานจะไปเที่ยวเพราะคิดถึงที่เขต ต.ดอนหัวฬ่อ พอรับออกมาแม่เด็กคือ น.ส.ศิริรักษ์ ภักดีวุฒิพงษ์ ( ยังใช้นามสกุลสามี ) ได้ทราบเรื่องก็โทรศัพท์บอกนายชัยกุล มีฤทธิ์ อายุ 40 ปี พี่ชายให้ตามเด็กกลับแต่พอมาเจอกันตนไม่ยอมจึงมีเหตุดังกล่าว
โดยนายชัยกุล มีฤทธิ์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่ชายฝ่ายหญิง เผยว่า จะมารับหลานไปก็ต้องมาคุยกันก่อนไม่ใช่มาแอบรับไปแบบนี้ เพราะยังมีปัญหาครอบครัวกันอยู่ ตนบอกให้จอดรถคุยกันก็ไม่จอดแถมขับรถชนตนอีก ซึ่งต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สมหวัง โพธิพันธ์ รอง สว.( สอบสวน ) สภ.เมืองชลบุรี ดำเนินคดี ตามกฎหมายแต่ละคดีแยกกันไป