สพฐ. ชี้ ผอ.โรงเรียนมีอำนาจสั่งปิดเรียนได้ 7 วัน ขอให้พิจารณาสั่งการทันทีหากเผชิญวิกฤติฝุ่น เปิดขอรับบริจาคหน้ากากอนามัยให้เด็กนักเรียนสู้ฝุ่น
ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) พื้นที่กรุงเทพมหานครและในเขตปริมณฑล 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม และผู้อำนวยการโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2562 ว่า ได้มอบหมายให้โรงเรียนไปสำรวจยานพาหนะที่ผู้ปกครองใช้ส่งนักเรียนว่ามีอะไรบ้าง จำนวนเท่าไร และเก็บข้อมูลค่ามลพิษในจุดที่โรงเรียนตั้งใน 4 ช่วงเวลา คือ เช้า สาย บ่าย และเย็น เพื่อดูว่าช่วงเวลาใดที่ค่ามลพิษเพิ่มขึ้น หรือ ลดลงเพื่อนำข้อมูลมาหารือร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครอง กำหนดมาตรการแก้ไข โดยอาศัยความร่วมมือเพราะ สพฐ.ไม่มีอำนาจไปสั่งการได้ ให้โรงเรียนเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างวัฒนธรรมการดูคุณภาพชีวิต และสภาแวดล้อมใหม่อย่างยั่งยืน เพราะการประกาศปิดเรียนเป็นเพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น แต่จำเป็นต้องหามาตรการระยะยาวเพื่อวางแผนแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ได้มีข้อเสนอการแก้ไขปัญหาระยะสั้นและระยะยาว เช่น รณรงค์ปลูกต้นไม้ ลดใช้ยานพาหนะ ดูแลยานพาหนะ สำหรับโรงเรียนที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ให้เจรจาขอหยุดการก่อสร้าง หากไม่สามารถหยุดได้ ให้ขอความร่วมมือผู้รับเหมาล้างฝุ่นทุกวัน
ดร.บุญรักษ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ มอบนโยบายให้โรงเรียนสำรวจและเก็บข้อมูลเด็กที่มีภาวะเสี่ยง หรือมีโรคประจำตัวแพ้ฝุ่นได้ง่าย ซึ่งอาจต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยให้ปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือในภาวะฉุกเฉิน เช่น ออกซิเจน ซึ่ง สพฐ.อาจจะสนับสนุนอุปกรณ์บางอย่างให้โรงเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งผู้อำนวยการโรงเรียนทุกแห่งขอให้ใช้ภาวะผู้นำอย่างมั่นใจ ในการสั่งการปิดเรียนได้ทันที หากโรงเรียนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง ไม่ต้องรอคำสั่งจากส่วนกลาง โดยมีอำนาจสั่งปิดได้ 7 วัน และช่วงปิดเรียนสามารถจัดสอน หรือให้เด็กเรียนรู้เพิ่มเติมจากหลายช่องทาง ทั้ง DLTV หรือติวฟรีดอทคอม
“สิ่งที่โรงเรียนต้องการขณะนี้ คือ หน้ากากอนามัย ซึ่ง สพฐ.คงมีงบประมาณไม่เพียงพอในการจัดซื้อให้ทุกโรงเรียน ดังนั้น สพฐ.จะรณรงค์ขอรับบริจาคหน้ากากอนามัยให้แก่นักเรียน โดยขอเชิญชวนให้ภาคเอกชน หรือผู้ประสงค์จะบริจาคสามารถติดต่อประสานไปยังโรงเรียนโดยตรง หรือ ประสานผ่านเขตพื้นที่การศึกษา และ สพฐ.”ดร.บุญรักษ์ กล่าว