สลดแล้ว ครอบครัวหัวร้อนเตรียมเข้าของโทษกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ประเด็นของครอบครัวหัวร้อน ที่มีทั้งนายพยอม แสงวันดี อายุ 32 ปี นางหทัยรัตน์ สมถวิล อายุ 35 ปี และลูกชายวัย18 ปี 3 พ่อแม่และลูก ที่ได้จอดรถบริเวณเส้นขาว-แดง ซึ่งเป็นจุดห้ามจอดในเขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด อ.เมืองระยอง จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจราจร สภ.มาบตาพุด และทางครอบครัว ก็ฟ้องกลับ ปรากฏว่าเรื่องราวนี้ตกเป็นที่วิพากวิจารณ์ถึงการกระทำไปทั่วสังคมออนไลน์อย่างหนักหน่วง มีการโทรศัพท์และส่งข้อความไปตำหนิ นางหทัยรัตน์ สมถวิล ผู้เป็นแม่จำนวนหลายพันข้อความ และด่าทอ กดดัน ถึงการกระทำที่เป็นแบบอย่างที่ไม่ดี แถมยังพาดพิงไปจนถึงการเลี้ยงดูแลบุตรชาย และมีการขุดคุ้ยคลิปภาพของครอบครัวนี้ทั้งที่ จ.สุรินทร์และ นนทบุรี แรงกดดันที่เกิดขึ้นส่งผลให้ครอบครัว
นายพยอม แสงวันดี สามี และนางหทัยรัตน์ สมถวิล ภรรยา ซึ่งมีสีหน้าที่ เศร้าสลดอยู่ตลอดเวลา ของการสัมภาษณ์ผ่าน FB.brighttv 20 และรายการ ทุบประเด็น เมื่อคืนวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 โดย ยอมเปิดเผยว่า ความรู้สึกช่วงนี้ ท้อแท้ใจยิ่งนัก มีแต่ผู้คนประนามการกระทำ และตำหนิแบบรุนแรง ใช้ถ้อยคำประนามครอบครัว เช่นคำว่า ต่ำช้า เลวทราม จนสภาพจิตใจของนางหทัยรัตน์ ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ 2 เดือนเศษ เศร้าอย่างหนักและเตรียมเดินทางไปขอขมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จังหวัด ระยอง และอยากจะขอให้จบเรื่องราวนี้ หากถอนแจ้งความได้อยากจะถอนการแจ้งความ
ขณะเดียวกัน นางสาวหทัยรัตน์ ยอมรับกับว่า ไม่ได้จบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่ที่อ้างเพราะมีความหลังกับเจ้าหน้าที่และถูกเข้าคุก 3 วัน จึงศึกษากฏหมายและอ้างเพื่อไม่ให้ใครมาเอาเปรียบ
ด้านนายโอฬาร อินทสุวรรณ เลขาธิการ สมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยว่า การแอบอ้างของหญิงในคลิปครอบครัวหัวร้อน ว่าพฤติกรรมไม่น่าจะจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะหากทราบกฏหมายดีก็จะไม่มีพฤติกรรมดังกล่าว และมหาวิทยาลัยมีระบบการตรวจสอบรายชื่อ ซึ่งศ.ดร.อุดม รัฐอมฤ คณบดี จะเป็นผู้ดำเนินการ หากพบว่าแอบอ้างทำให้ทางคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับความเสื่อมเสีย ทางคณะฯสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้