สลด! น้าแท้ๆใช้ค้อนปอนด์ฆ่าหลานชายวัย 5ขวบเสียชีวิตคาที่หน้าบ้านตัวเอง ญาติวิ่งเข้ามาช่วยถูกทุบเจ็บสาหัสอีก3คน พบมือค้อนมีอาการป่วยซึมเศร้า ติดยาบ้า หลังจากถูกภรรยาทิ้งไป
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านเลขที่29บ้านท่าเกษม ม.11ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังเกิดเหตุสลดน้าชายแท้ๆลงมือใช้ค้อนปอนด์ทุบหลานชายวัย5ขวบเสียชีวิตคาที่หน้าบ้านของน้าชาย ทราบชื่อคือนาย กอบกู้ สีฐาน หรือโหน่ง อายุ 32ปี และข้างบ้านของนายโหน่งซึ่งอยู่ติดกันบ้านเลขที่ 15เป็นบ้านของ ด.ช.รัชตะ โตล่ำ อายุ 5ขวบ หรือน้องเปา ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยภายในบ้านญาติๆได้ใช้เป็นสถานที่ตั้งศพน้องเปา ท่ามกลางบรรยากาศที่หดหู่ และความโศกเศร้าเสียใจของญาติน้องเปาและเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวอีก3คน คือแม่ของน้องเปา แม่ของนายโหน่งที่ลงมือฆ่าน้องเปา และยายของน้องเปา ซึ่งได้เข้าไปช่วยเหลือน้องเปาจนได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 3คน โดยนางสาวจิราภรณ์ ดอนเรือนไพร อายุ 26ปี แม่น้องเปา อาการสาหัสกว่าเพื่อนถูกนายโหน่งทำร้ายจนสลบเป็นแผลฉกรรจ์ทั่วทั้งตัว ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลขอนแก่น และยังไม่รู้สึกตัว
โดยแพทย์บอกกับทางญาติๆว่ามีโอกาสรอดเพียง20เปอร์เซ็นต์ ส่วนยายของน้องเปาที่เข้าไปอุ้มน้องเปาออกมาจากจุดเกิดเหตุก็ถูกตีศีรษะแตก เป็นแผลตามร่างกาย ลุกเดินลำบาก และแม่ของนายโหน่งก็ถูกลูกชายใช้ค้อนปอนด์ทุบเข้าที่แขนและตามร่างกายช้ำมีรอยช้ำบวม
จากการสอบถามนางละมุล ภูมาลัย อายุ 55ปี (เสื้อดำ) แม่ของนายโหน่งและเป็นยายของน้องเปา เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 19.00น. วันที่ 26ก.ย.2561 โดยก่อนเกิดเหตุ น้องเปาเลิกจากโรงเรียนก็มานั่งดูทีวีอยู่ภายในบ้านตามปกติ ต่อมาแม่ของน้องเปาเลิกจากทำงานก็เดินทางกลับมาหาลูก มานั่งเล่น ดูทีวี หยอกกันอยู่ภายในบ้านซึ่งอยู่ติดกัน พอถึงเวลาที่ทั้งคู่จะกลับเข้าบ้านตัวเอง แม่น้องเปาก็อุ้มน้องเปาขี่คอเดินออกจากประตูมา โดยขณะนั้น นายโหน่งมือฆ่าได้นั่งอยู่ที่เปลหน้าบ้าน โดยก่อนจะเกิดเหตุนายโหน่งได้นั่งอยู่เปลนานแล้ว และมองน้องเปากับแม่น้องเปาตลอด แต่ก็ไม่ได้มีใครเอะใจอะไร เพราะทุกคนเป็นญาติกัน
นายโหน่งก็เคยหยอกล้อกับหลาน พอแม่น้องเปากับน้องเปาออกจากประตูมา นายโหน่งก็ลุกขึ้นหยิบค้อนปอนด์ทุบเข้าไปตามศีรษะและลำตัวของทั้งคู่ จนล้มลง น้องเปาเสียชีวิตคาที่ภายในอ้อมกอดของแม่ และแม่ของน้องเปาถูกทุบจนสลบและมีบาดแผลฉกรรจ์ตามตัว ญาติได้เข้าช่วยเหลือก็ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายโหน่งจะวิ่งถือค้อนปอนด์ และคว้ามีดปลายแหลมขึ้นไปหลบอยู่บนบ้าน ตนจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไป
นางละมุล ยังเผยอีกว่า นายโหน่งลูกชายของตน เคยเสพยาบ้าและมีอาการหลอน จนภรรยาทิ้งไป กลายเป็นคนซึมเศร้า และได้พาไปรักษาตัวที่รพ.จิตเวชขอนแก่นมาประมาณ1ปี แต่พอยาหมดนายโหน่งก็ไม่ยอมไปพบแพทย์โดยบอกทุกคนว่าหายแล้ว ซึ่งมูลเหตุจูงใจเชื่อว่านายโหน่งคงคิดถึงภรรยาและลูกที่รุ่นเดียวกันกับน้องเปาและแม่ของน้องเปา จึงเฝ้ามองสองแม่ลูก จนเกิดความเครียด ทำร้ายสองแม่ลูก จนน้องเปาตายคาที่ และแม่น้องเปาอาการสาหัส
ทางด้านนางทองสา กองกุล อายุ 51ปี (เสื้อขาว) ยายของน้องเปาที่เข้าช่วยเหลือน้องเปาและแม่น้องเปา เปิดเผยว่า ได้ยินเสียง พี่สาวร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งเข้าไปดู และพบเหตุการณ์ดังกล่าว จึงรีบเข้าไปอุ้มน้องเปาออกมาอย่างไม่คิดชีวิต จนถูกนายโหน่งทำร้าย ศีรษะแตก เป็นแผลบอบช้ำตามร่างกายหลายแห่ง จนตอนนี้ต้องลุกเดินด้วยความยากลำบาก คาดว่านายโหน่งมีอาการมาจากการขาดยาจิตเวช และเสพยาบ้า เพราะก่อนที่จะลงมือฆ่าน้องเปา นายโหน่งได้ดื่มเบียร์ผสมกับเครื่องดื่มชูกำลังและขับรถวนไปวนมาในหมู่บ้านหลายรอบ ก่อนจะกลับมานั่งอยู่ที่เปลกระทั่งเกิดเหตุการณ์สลดในครั้งนี้ขึ้น
ขณะที่ พ.ต.ท.เพิ่ม นาคำ รอง ผกก.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุก็รีบแจ้งชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุทันที เมื่อไปถึงก็รีบเข้าจับกุมตัวนายกอบกู้ สีฐาน หรือโหน่ง ในสภาพเนื้อตัวมีคราบเลือด พบค้อนของกลางและมีดปลายแหลม จึงควบคุมตัวไว้ โดยนายกอบกู้ นั้น หลังถูกจับมาที่ สภ.มัญจาคีรี ทางเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไว้ในห้องขัง เนื่องจากยังให้การวกวน ซึ่งจากการตรวจที่เกิดเหตุและสอบสวนมารดาผู้ก่อเหตุและญาติพี่น้อง ชาวบ้าน ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นผู้ป่วยจิตเวช ขาดยามานาน ไม่หลับไม่นอน แต่ไม่เคยทำร้ายใคร
ในเบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหา ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และจะนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่นในวันนี้ (28 ก.ย.2561)แต่ถ้าถึงเวลานำตัวส่งศาลผู้ต้องหายังคงไม่มีสติ ยังให้การวกวน ก็จะนำตัวส่ง รพ.จิตเวช เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาจนอาการดีขึ้นก่อน