สลด! เมียจิตหลอน ปาดคอ ควักลูกตาผัวที่ป่วยเป็นโรคอัมพาต ดับสยอง ด้านเจ้าหน้าที่เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรบ้านดู่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพนายเปรม มณีรักษ์ อายุ 82 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพสยดสยอง เนื่องจากที่ลำคอถูกมีดคมปาดเป็นแผลฉกรรจ์หวิดขาด และที่ดวงตาด้านซ้ายถูกควักจนลูกตาทะลักออกมาจากเบ้า 1 ข้าง บริเวณ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้น บริเวณ ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์สองชั้น พร้อมยังพบมีดทำครัวจำนวน 2 เล่ม เป็นมีดสับเนื้อ 1 ด้ามและมีดปลอกผลไม้อีก 1 ด้าม วางอยู่บริเวณที่ล้างหน้าห้องน้ำชั้นล่าง ที่ยังเปียกน้ำเพราะเพิ่งมีชำระล้างมาใหม่แต่ยังมีคาบเลือดจางๆติดอยู่บางส่วน คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุในครั้งนี้ จึงประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรเชียงรายและแพทย์เวรโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์มาตรวจเก็บบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามพยานหลายคนทำให้พอทราบเบื้องต้นว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นภรรยาของผู้ตายเอง เพราะมีคาบเลือดบางส่วนติดอยุ่ตามเสื้อผ้าและลำตัว โดยหลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหนโดยนั่งเหม่อลอยอยู่บนโซฟาชั้นล่าง เหมือนอยู่ในอาการซ็อกไม่พูดจากับใคร เจ้าหน้าที่จึงให้จิตเวชและตำรวจนอกเครื่องแบบ ทำการพุดคุยจนรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเองเนื่องจากมีคนคอยสั่งการในสมองให้กระทำดังกล่าว ซึ่งทางญาติก็ให้การด้วยว่าผู้ก่อเหตุ มีอาการทางประสาทมานานแล้ว ยังอยู่ระหว่างการบำบัดรักษา และมีรายงานว่าก่อนหน้านี้หลายปีก่อนเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันโดยฆ่าหลานวัย 3 ขวบเสียชีวิตมาแล้ว 1 คนในพื้นที่ อ.เชียงแสน ซึ่งเป็นภูมิลำเนาเดิม ทำให้ติดคุก 3 ปี
ในการสอบถามทางนางมัลลิกา สุทธวงค์ อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุทราบว่าผู้ตายเป็นบิดาของ น.ส.ภัทรดา มณีรักษ์ อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรู้จักกันและมาขอเช่าบ้านอาศัยอยู่ด้วยกันเพื่อจะเปิดร้านขายอาหารตามสั่ง โดยได้นำผู้ตายมาอาศัยอยู่ด้วยประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่เมื่อ 3-4 วันก่อนผู้ป่วยได้ทำการรักษาดวงตา อีกทั้งป่วยเป็นโรคอัมพาต ไม่สามารถเคลื่อนไหวด้วยตัวเองได้ ทาง น.ส.ภัทรดา จึงรับผู้ก่อเหตุมาอยู่ด้วยเพื่อช่วยกันดูแล จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบสาเหตุจูงใจของการก่อเหตุที่ชัดเจน เนื่องจากคนก่อเหตุยังอยุ่ในอาการตกใจพูดคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง รวมไปถึงประเด็นเคยก่อคดีลักษณะมาแล้วครั้งหนึ่งนั้น จะได้มีการนำตัวไปสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป