กรณีคุณยายวัย 64 ซิ่งกระบะฝ่าไฟแดงกลางสี่แยกโพธิ์พระยา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ทำให้รถเสียหายรวม 6 คันและบาดเจ็บ 4 คน โดยคุณยายผู้ก่อเหตุเดินลงจากรถด้วยอาการแขนขาสั่นด้วยความตกใจ และให้การวกวน เบื้องต้นแจ้งว่ากำลังขับรถเดินทางกลับบ้าน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี แจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท รอบุตรชายเจรจาค่าเสียหาย และคาดว่าผู้ก่อเหตุป่วยโรคอัลไซเมอร์แถมไม่มีใบอนุญาตขับขี่ติดตัวมาด้วย
จากเรื่องราวที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pimpakarn Deesmuer” โพสต์คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์คุณยายวัย 64 ปี ซิ่งกระบะฝ่าไฟแดง บริเวณสี่แยกโพธิ์พระยา จ.สุพรรณบุรี
เป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่ง รพ.เจ้าพระยายมราช เมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.ย.61) ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่ารถทั้งหมดจอดติดไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกดังกล่าว แล้วจู่ ๆ คุณยายก็ซิ่งกระบะพุ่งฝ่าไฟแดงชนรถที่จอดติดไฟแดง 6 คันรวด โดยคุณยายผู้ก่อเหตุเดินลงจากรถด้วยอาการแขนขาสั่นด้วยความตกใจ และให้การวกวน เบื้องต้นแจ้งว่ากำลังขับรถเดินทางกลับบ้าน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
อ่านต่อ :
70 ยังซิ่ง! ยายฝ่าไฟแดงชนยับ 6 คันรวด (มีคลิป)
ล่าสุด วันนี้ (18 ก.ย.61) ร.ต.ท.หญิงปิยาอร คำหวาน รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบรถที่ประสบอุบัติเหตุได้รับความเสียหายหลายคันและมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ซึ่งจากการสอบสวนคุณยายคนขับวัย 64 ปี ให้การวกวน พูดจาไม่รู้เรื่อง ครั้งแรกคิดว่ายายคงจะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนช็อก แต่หลังจากนำคุณยายมาสงบติอารมณ์ที่โรงพัก แล้วสอบสวนต่อ คุณยายก็ยังคงพูดจาวกวนเหมือนเป็นโรคอัลไซเมอร์ ความจำเสื่อม จำเหตุการณ์อะไรไม่ได้พูดกันคนละเรื่อง จึงได้ติดต่อสอบถามไปที่ญาติทราบว่าลูกของยายไปทำงานอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยยายอยู่บ้านเพียงลำพังก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาทำธุระในตัวเมืองสุพรรณบุรี กระทั่งมาเกิดอุบัติเหตุขึ้น นอกจากนั้น เมื่อสอบถามคุณยายถึงใบอนุญาตขับขี่ ยายบอกว่าลืมไว้ที่บ้าน จึงสันนิษฐานว่ายายไม่น่าจะมีใบอนุญาตขับขี่ตามที่กล่าวอ้างเบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาคุณยายขับรถประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนการชดใช้ค่าเสียหาย ต้องรอทางลูกของคุณยาย มาเจรจาว่าจะยอมชดใช้อย่างไรหรือไม่หากไม่มีจ่ายก็คงต้องส่งให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ขณะนี้มีคู่กรณีได้ถอนตัวไป 2 ราย ประกอบด้วยคนขับรถกระบะและคนขับขี่รถจักรยานยนต์ซึ่งได้รับความเสียหายเล็กน้อยและไม่ประสงค์จะดำเนินคดี ส่วนคนเจ็บจำนวน 4 คน แพทย์อนุญาตให้กลับบ้าน 3 รายส่วนอีก 1 รายเป็นเด็กชายซึ่งแขนหักหมอให้นอนดูอาการ โดยหากรักษาตัวจนหายดีแล้ว เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป