ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองนักเรียนเข้าแจ้งความว่าครูผู้สอนลงโทษเกินกว่าเหตุ ล่าสุด ตำรวจภูธรปัว เตรียมออกหมายเรียกครูแล้ว ขณะที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 สั่งย้ายออกจากโรงเรียนชั่วคราว
จากกรณีที่ผู้ปกครองนักเรียน ร.ร.วรนคร ต.วรนคร อ.ปัว จ.น่าน 4 คน นำลูกหลานซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 3 คน และเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 1 คน อายุ 7-8 ขวบ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรปัว อ.ปัว เมื่อบ่ายวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาครูผู้สอนชายรายหนึ่งทำร้ายร่างกายเด็กโดยการทำโทษในห้องเรียนเกินกว่าเหตุ ซึ่งทางผู้ปกครองเด็กให้การว่า ครูดังกล่าวได้เอาหน้านักเรียนโขกกับกระดาน และใช้ไม้ตีหลัง บางคนใช้เล็บหยิกข่วนแขน หลังนักเรียนไม่ส่งการบ้านทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บและหวาดกลัว มีพฤติกรรมอย่างนี้หลายครั้งโดยครั้งล่าสุดก่อนหน้านี้ก็ถูกทำทัณฑ์บนแล้ว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดกับครูรายนี้ให้ถึงที่สุด ส่วนทางวินัยหรือทางการปกครองก็ไม่อยากให้ครูอยู่สอนนักเรียนอีก เกรงจะเป็นการทำร้ายจิตใจเด็กด้วย
ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ย.60) นายอัศรายุทธ ศรีใจอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 กล่าวว่า ได้มีหนังสือสั่งให้ครูโรงเรียนวรนครผู้ก่อเหตุ ย้ายออกจากโรงเรียนโดยจะมีผลตั้งแต่วันนี้ (28 พ.ย.60) เป็นต้นไป เป็นการย้ายมาปฏิบัติราชการที่เขตการศึกษาประถมศึกษาน่านเขต 2 เป็นการชั่วคราว เพื่อลดความตึงเครียดภายในโรงเรียน พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง หากผิดก็จะดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ส่วนทางคดี พันตำรวจเอกอัครวัฒน์ พุ่มไพศาลชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปัว เปิดเผยว่า คดีนี้ต้องรอผลการตรวจบาดแผลจากแพทย์ก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าเด็กบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหนจึงจะสามารถออกหมายเรียกครูต้นเหตุมาพบพนักงานสอบสวนได้ เบื้องต้นทางผู้ปกครองเด็กนำไปให้แพทย์ตรวจมีบาดแผลที่ริมฝีปากเจ่อ ริ้วรอยที่แขนและหลัง อยู่ที่ความเห็นของแพทย์ว่าได้รับอันตรายแก่กายและใจรักษานานแค่ไหน แต่ทางผู้ปกครองและเด็กได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว หากเป็นคดีก็จะดำเนินการตามกระบวนการสอบสวนที่จะต้องมีทีมสหวิชาชีพร่วมด้วย เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กและครูซึ่งละเอียดอ่อนมาก