กรณีรถเก๋งป้ายแดงราคาหลักล้านบาท ถูกคนวางกระป๋องสีไว้แล้วมีรถกระบะเหยียบทับกระป๋องสีทำให้กระเด็นโดนรถ ต้องทำสีใหม่ทั้งคันราคาร่วมแสนบาท เหตุเกิดที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุด สาวเจ้าของรถเก๋งถึงกับเครียดเนื่องจากทางห้างสรรพสินค้าจะรับผิดชอบและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ติดต่อมาเลย กลัวว่าจะกระทบกับการใช้ชีวิต
ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.สามพราน จ.นครปฐม เมื่อมีสาวขายโทรศัพท์มือถือโพสต์เฟซบุ๊กชื่อ “กวาง นางร้าย” บอกว่า รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ป้ายแดง ซื้อมาได้ 2 เดือนมาจอดในลานจอดรถเป็นประจำทุกวัน แต่เมื่อเย็นวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา มีรถกระบะอีซูซุคันหนึ่งขับออกมาแล้วเหยียบกระป๋องสีที่พนักงานของทางห้างวางไว้ กระเด็นใส่รถเก๋งแถบฝั่งขวาด้านหน้าและด้านหลังได้รับความเสียหาย
โดยหญิงสาวเจ้าของรถเก๋งผู้เสียหาย คือ น.ส.รัตนา แหลมหลัก อายุ 32 ปี บอกว่า รถคันนี้เพิ่งซื้อมาได้เพียง 2 เดือนเข้าศูนย์ซ่อมกว่า 1 เดือน ค่าซ่อมประมาณ 1 แสนบาท จึงได้สอบถามพนักงานทาสีของห้าง บอกว่ามีรถกระบะเหยียบกระป๋องสีแล้วก็ขับรถออกไปเลย แต่ตนเองไม่ได้คิดจะเอาเรื่อง เพราะคิดว่าเป็นแค่อุบัติเหตุ เพียงแต่อยากให้รถคู่กรณีมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จะต้องเสียเงินค่าเคลมกับบริษัทประกันเพียงเท่านั้น และขอให้ทางห้างสรรพสินค้าติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณลานจอดรถด้วย ซึ่งทางห้างดังกล่าวติดต่อมาว่าจะรับผิดชอบแล้ว ขณะที่ประกันพร้อมเคลมรถให้ ซึ่งการทำสีรถใหม่ทั้งคันจะต้องใช้เวลา 1 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ
แต่ความคืบหน้าล่าสุด น.ส.รัตนา เจ้าของรถเก๋งผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ย.61) บอกว่า ตอนนี้ถึงกับเครียดจัดเนื่องจากประกันต้องรับผิดชอบเรื่องค่าเสียหาย และถ้าส่วนต่างที่เงินประกันทาง น.ส.รัตนา ก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอีก ส่วนทางห้างสรรพสินค้าดังกล่าวจะรับผิดชอบที่เป็นลายลักษณ์อักษรก็ยังเงียบอยู่ ขณะที่เรื่องของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามพราน ที่จะเรียกคนขับกระบะตามคลิปวงจรปิดมาคุยนั้นก็ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อมาเลยแม้แต่รายเดียว และทาง น.ส.รัตนา เครียดจัดจึงร้องกับผู้สื่อข่าว ขอให้ทางห้างสรรพสินค้าขอความกระจ่างด้วย และทางตำรวจ สภ.สามพราน ให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย เพราะทุกวันนี้ตนเองต้องอาศัยรถของคนรู้จักมาขายของ และต้องจ่ายสัปดาห์ละ 500 บาท โดยไม่รู้ว่ารถจะได้วันไหน