สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฟิลิปปินส์ ลงมติร่างกฎหมายรื้อฟื้นโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกครั้ง ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนรวมถึงเหล่าบาทหลวงคริสตจักรโรมันคาทอลิกต่างคัดค้านเกี่ยวกับหลักการสิทธิมนุษยชน
สำนักข่าวเอพี และรอยเตอร์ รายงานจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร บริเวณเกซอนซิตี้ ชานกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ว่า ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายให้มีการรื้อฟื้นโทษประหารชีวิต ด้วยคะแนนเสียง 216-54 เสียง ขณะที่งดออกเสียง 1 เสียง ก่อนจะถูกส่งต่อให้วุฒิสภาลงมติต่อไป ซึ่งเดิมจากการประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ฉีดสารพิษเข้าร่างกาย หรือยิงเป้าหลายฐานความผิดอาญาร้ายแรง อาทิ ข่มขืน ลักพาตัวเรียกค่าไถ่ ปล้นทรัพย์ โกงชาติ แต่สุดท้ายทุกฝ่ายตกลงให้เหลือเพียงฐานความผิดเดียว คือ ยาเสพติด
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต พยายามผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะมีประสิทธิภาพในการปราบปรามอาชญากรรมที่รุนแรงในการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในวาระแรก ได้มีการระบุโทษประหารชีวิตสำหรับความผิดใน 21 คดี ซึ่งรวมถึง การปล้น, ข่มขืน และการกบฏ แต่ในการพิจารณาวาระที่ 2 ที่ประชุมสภาได้เห็นพ้องให้งดเว้นโทษประหารชีวิตต่อคดีที่เกี่ยวข้องกับการปล้น, ข่มขืน และการกบฏ โดยให้ผู้ที่ทำความผิดในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดเท่านั้น จึงจะถูกประหารชีวิตร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณา ก่อนที่จะให้ ปธน.ดูเตอร์เต ลงนามเป็นกฎหมายต่อไป
สำหรับการกลับมาใช้บทลงโทษขั้นประหารชีวิตนั้น ถูกระงับไปนานกว่า 10 ปีภายใต้แรงกดดันจากศาสนจักร ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรารถนาสูงสุดของ ปธน.ดูเตร์เต หลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ด้วยนโยบายเปิดสงครามกวาดล้างยาเสพติดและอาชญากรรม
อย่างไรก็ตาม กลุ่มสิทธิมนุษยชน และบาทหลวงคาทอลิกหลาย ๆ กลุ่มที่คัดค้านร่ากฎหมายฉบัยนี้ รวมตัวประท้วงด้านนอกสภาคองเกรส และกล่าวเตือนนักการเมืองที่ให้การสนับสนุน ว่า จะได้รับบทเรียนจากเขตเลือกตั้งโดยกลุ่มสิทธิมนุษยชน The International Commission of Jurists หรือ “ไอซีเจ” ประณามมติของสภาผู้แทนราษฎร และเรียกร้องต่อวุฒิสภาให้ขัดขวางร่างกฎหมาย ที่จะทำให้ฟิลิปปินส์ขัดแย้งโดยตรงกับพันธกรณีที่มีต่อองค์การระหว่างประเทศ
ภาพข่าวจาก adobochronicles.com