เรื่องราวที่แชร์กันในโซเชียลมีเดียเมื่อหนุ่มคนงานอู่ซ่อมรถรายหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร จับแมวชื่อว่า “เจ้าชินจัง” แล้วปล่อยให้รถชน ปรากฏว่าแมวตัวนี้นอนหายใจรวยรินก่อนตาย สุดท้ายเจ้าของแมวสอบถามคนก่อเหตุอ้างว่าตัวเองปล่อยหลุดมือโดยไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายวันต่อมาชิงลาออกไปแล้ว
กล้องวงจรปิดที่หน้าอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งใน ซ.เอกชัย 30 อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เผยให้เห็นชายคนหนึ่งเดินข้ามถนนไปอุ้มแมวซึ่งนอนอยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วก็เดินกลับมาฝั่งเดิม จากนั้นอาศัยจังหวะที่รถขับผ่านมาก่อนปล่อยแมวลงให้วิ่งข้ามถนนกลับไป ทำให้แมวถูกรถบรรทุก 4 ล้อที่เบรกไม่ทันทับหลัง แล้วเกือบจะถูกรถจักรยานยนต์อีกคันชนด้วย โดยเจ้าแมวที่ถูกรถบรรทุกชนทับแล้วแต่ยังไม่ตายนั้น พยายามลากขาข้ามกลับไปยังฝั่งที่ถูกอุ้มมาทีแรก ซึ่งภาพวงจรปิดดังกล่าวได้แชร์ลงในโซเชียลพร้อมกับข้อความวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงการทารุณกรรมสัตว์ที่โหดร้าย และแชร์ต่อๆ กันไปมากกว่า 3 พันครั้งแล้ว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์นี้ และได้พูดคุยกับ นางยุพา รอดเนียม อายุ 51 ปี เจ้าของร้านขายของชำฝั่งตรงข้ามกับอู่ซ่อมรถยนต์ ซึ่ง นางยุพา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เป็นเจ้าของแมวตัวนี้ เป็นแมวเพศเมีย อายุประมาณ 10 เดือน ชื่อ “เจ้าชินจัง” ซึ่งมีคนนำมาให้ตนเองกับลูกสาวช่วยกันเลี้ยงตั้งแต่คลอดออกมาได้ประมาณ 1 เดือนเท่านั้น “เจ้าชินจัง” เป็นแมวแสนรู้ ขี้เล่น ซุกซน ตามประสาสัตว์แต่ไม่เคยไปทำความเดือดร้อนกับใครเลย ทุก ๆ วัน “เจ้าชินจัง” ต้องออกมานั่งเล่นนอนเล่นใกล้ ๆ กับจุดที่ตนเองนั่งขายของ เวลาหิวก็จะร้องขออาหารกินซึ่งของโปรดก็คือ “ข้าวคลุกปลาทู” พออิ่มก็นั่งเล่นนอนเล่นบริเวณรอบ ๆ บ้าน ไม่เคยข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามเลยเพราะเคยถูกรถชนมาแล้วทำให้ “เจ้าชินจัง” ไม่กล้าที่จะข้ามถนนอีก
นางยุพา เล่าอีกว่า เช้าวานนี้ (13 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ระหว่างขายของอยู่ในร้าน ได้ยินเสียงร้องของ “เจ้าชินจัง” จึงเดินออกไปดู เห็นแมวตนเองนอนหายใจรวยรินข้างบ้านก่อนจะตายลงในที่สุด ซึ่งพอดูตามลำตัวก็เห็นว่ามีร่องรอยถูกรถทับ ก็คิดว่าแมวคงจะถูกรถชนปกติทั่วไปจึงไม่ได้ติดใจอะไรและให้คนรู้จักช่วยนำ “เจ้าชินจัง” ไปฝังให้เรียบร้อย แต่ลูกสาวเอะใจขึ้นมา ไปเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบเจอคนงานชายของอู่ซ่อมรถยนต์เดินข้ามถนนมาอุ้ม “เจ้าชินจัง” แบบกอดไว้แนบอกแล้วอุ้มข้ามกลับไป จากนั้นก็รอจังหวะที่รถยนต์ขับผ่านปล่อย “เจ้าชินจัง” ลงให้วิ่งข้ามกลับมาจนเกิดเหตุสลดดงักล่าว ทำให้ตนเองกับลูกสาวรับไม่ได้ เข้าแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพราะเป็นการกระทำที่โหดร้ายเกินไป และเมื่อถามคนงานรายนี้ก็อ้างว่า แมวดิ้นหลุดมือไม่ได้ตั้งใจจะทำร้าย แต่ภาพที่ออกมากลับไม่ใช่อย่างที่เขาปฏิเสธเลย และพอหลังจากที่ตนเองต่อว่าได้เพียงวันเดียว คนงานรายนี้ไม่มาทำงานอีกเลย โดยได้ให้ญาติมาขอรับเงินจากเจ้าของอู่แล้วก็หายไป
ทางด้าน นายชนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี เพื่อนที่ทำงานในอู่ซ่อมรถยนต์เดียวกัน บอกว่า วันเกิดเหตุยืนอยู่ข้างหน้าอู่ แล้วเห็น นายจร (นามสมมติ) ชายในกล้องวงจรปิดเดินไปอุ้มแมวข้ามฝั่งมาจริง จากนั้นเห็นแมวหลุดจากมือแล้วก็วิ่งข้ามถนนไป ซึ่งตนก็ออกไปโบกให้รถหยุด แต่รถหยุดไม่ทันจึงทับแมวเข้าอย่างจัง โดยหลังเกิดเหตุแล้วมีภาพเผยแพร่ไปในโซเชียลมีเดีย นายจร ได้มาปรับทุกข์กับตนเองว่ารู้สึกผิดที่ทำให้แมวตายและไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ เพราะนายจรเป็นคนที่รักแมวกับสุนัขมาก และด้วยความรู้สึกผิดกลัวจากการถูกสังคมออนไลน์โจมตีนี่เอง ทำให้ นายจร ลาออกจากงานไปทันที