ความคืบหน้ากรณีเพลิงไหม้เรือสปีดโบ๊ท “คิงโพไซดอน” หน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีนักท่องเที่ยวและลูกเรือผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย สาหัส 6 คน แต่ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ยืนยันไม่ส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยว และยังคงเดินทางขึ้นเรือโดยสารไปท่องเที่ยวทะเลตามปกติ
นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ยังคงเดินทางมาท่องเที่ยวทางทะเลกันอย่างคึกคักโดยสวมเสื้อชูชีพและได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งในวันนี้ (16 ม.ค.61) นายวรพจน์ ล้อมลิ้ม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้ เข้าตรวจสอบความเรียบร้อย บริเวณท่าเทียบเรืออุทยานแห่งชาติฯ และบริเวณชายหาดนพรัตน์ ธารา และหาดอ่าวนาง ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ พร้อมกำชับกับตันเรือ ลูกเรือ และไกด์นำเที่ยว ในการดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว โดยเรือทุกลำจะต้องบรรทุกเกินที่กำหนด เรือทุกลำต้องมีอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เสื้อชูชีพ และถังดับเพลิงประจำเรือ จะต้องมีก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
นายวรพจน์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้เรือสปีดโบ๊ท “คิงโพไซดอน” หน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี ต.อ่าวนาง เมื่อวันที่ 14 ม.ค.61 ที่ผ่านมา ไม่มีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวแต่อย่างใด ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาลงเรือที่ท่าเทียบเรืออุทยานฯ ซึ่งนักท่องเที่ยวมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ และยังคงมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่
ทางด้าน พ.ต.ท.หม่อมหลวงกิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ เชิญผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือ ณ ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อกำหนดมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยนักท่องเที่ยวให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ มาตรการก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ข้กระจายข้อมูลข่าวสารในการทำหน้าที่กระจายข่าว-เหตุการณ์ให้ถูกต้องผ่านระบบการสื่อสารต่าง ๆ ให้มีข้อมูลไปในทิศทางเดียวกัน และป้องกันความคลาดเคลื่อน