หมอเดือดสุดๆ สนั่นโซเชียลเมื่อชมรมแพทย์ชนบท และโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศ ออกมาแสดงความคิดเห็นเชิงคัดค้านหลังกระทรวงการคลังออกระเบียบฉบับใหม่ ที่สั่งห้ามโรงพยาบาลภาครัฐ รวมทั้งโรงเรียนแพทย์และหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จ้างและขึ้นเงินเดือนให้ลูกจ้างจากเงินนอกงบประมาณ และต้องขออนุญาตจากกรมบัญชีกลางก่อน ทำให้เฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ออกมาประท้วงผ่านทางโซเชียลมีเดียจำนวนมาก
เฟซบุ๊ก “ชมรมแพทย์ชนบท” โพสต์ภาพและข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า ปากของรัฐบาลชุดนี้บอกว่าจะปฏิรูปแต่กลับมาทำสิ่งที่ถอยหลัง คือ นอกจากจะกำลังพยายามแก้กฎหมายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้ถอยหลังเข้าคลอง โดยให้ประชาชนร่วมจ่ายไม่พอ ล่าสุด กระทรวงการคลัง ยิ่งบ้าจี้ออกหนังสือสั่งการให้โรงพยาบาลรัฐบาลถอยลงคลองกลับไปปี 2544 หรือเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ให้การจ้างลูกจ้าง รวมไปถึงวิชาชีพต่าง ๆ แต่ละคนเพิ่ม ไม่ว่าจะจากเงินนอกงบประมาณ เงินบำรุง ต้องไปขอจากกรมบัญชีกลาง และห้ามเพิ่มเงินเดือน ไม่ได้สักคน คงจะเหมือนสมัยก่อนจะจ้างใครสักคนต้องขอล่วงหน้าก่อน 1 ปีงบประมาณ
ชมรมแพทย์ชนบท เปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊ก อีกว่า “ขอพูดตรงๆ ว่าบ้าไปแล้วหรือเปล่า สมองมีแต่ก้อนมันๆ ใช่ไหม ต้องรอให้มีญาติพี่น้องมาป่วยแถวโรงพยาบาลรัฐ คนเข็นเปลไม่พอ พยาบาลไม่พอ รอให้ตายก่อนแล้วค่อยอนุมัติให้มาจ้างอย่างนั้นหรือ อะไรกันงานมากขึ้นจ้างคนไม่ได้ คนลาออกจะจ้าง ก็ต้องขอตกลงกรมบัญชีกลางก่อน ค่าตอบแทนก็นิดเดียวไม่ให้เพิ่มอีก นี่กะจะให้กำลังคนที่รัฐผลิตมาไปให้เอกชนใช่ไหม กะจะทำลายโรงพยาบาลรัฐกันอย่างนี้เลยใช่ไหม กะจะให้บุคลากรที่รัฐผลิตได้ไปปรนเปรอให้โรงพยาบาลเอกชนฟรีๆใช่ไหม ได้เลยครับมาลองดูกัน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ขอเชิญชวนพี่น้องโรงพยาบาลชุมชน รพ.สต. โรงพยาบาลทั่วไปและโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลรัฐบาลทั้งประเทศ. เริ่มจากขึ้นป้ายไว้อาลัย แต่งชุดดำกัน หากรัฐบาลยังไม่เห็นยังไม่ได้ยิน คงต้องนัดกันเตรียมรองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ ไปสมทบกับคนที่อยากเลือกตั้งแล้วแหละครับ”
จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทั่วประเทศ ออกมาแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งให้เหตุผลว่า เป็นการออกระเบียบย้อนแย้งกับข้อเท็จจริง โรงพยาบาลชุมชนต่างจังหวัดเกือบทุกแห่งมีภาระงานล้นมือ ค่าตอบแทนน้อย ซ้ำร้ายยังไม่มีการบรรจุตำแหน่งข้าราชการเพิ่มเติมมานานแล้ว การออกระเบียบของกระทรวงการคลัง ยิ่งเพิ่มภาระให้กับโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น และยังทำลายขวัญกำลังใจลูกจ้างว่าคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นได้อย่างไรในเมื่อให้ทำงานในอัตราขั้นต่ำราคาเดียวตลอดชีวิต อีกทั้งโรงพยาบาลบางแห่งขยายตึกเพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วย แต่ก็ไม่ให้จ้างคนมาให้บริการ