หวิดซ้ำรอยคล้ายกับกรณีที่เกิดขึ้นใน จ.ขอนแก่น เมื่อสาววัย 36 ปีใน จ.สมุทรปราการ ขี่รถจักรยานยนต์ถูกสายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวอกล้มกลิ้งบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบอุบัติเหตุสายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จนล้มได้รับบาดเจ็บ และมีรถยนต์ถูกสายดังกล่าวเกี่ยวได้รับความเสียหาย บริเวณถนนซอยวัดคู่สร้างกด้านหน้า บริษัท ไทยออโต้ จำกัด หมู่ที่ 8 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในทางเข้าซอยวัดคู่สร้างไปประมาณ 3 กม. ใกล้เคียงสะพาน 4 คู่สร้างซึ่งเป็นถนน 2 เลนรถวิ่งสวนทางกัน พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน ญฬ 4618 กทม. จอดหลบอยู่ข้างทางสภาพกระจกมองข้างด้านซ้ายหักตกลงไปกองอยู่กับพื้น ห่างกันประมาณ 40 เมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีดำ–เทา หมายเลขทะเบียน ยลร 29 กทม. ล้มขวางถนน โดยมีสายอินเทอร์เน็ตเกี่ยวคาเข้ากับชุดไฟหน้ารถ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อภายหลัง น.ส.ชาลิสา พาเชื้อ อายุ 36 ปี ชาว ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ บาดเจ็บแผลถลอกตามร่างกายและมีรอยฟกซ้ำเหนือหน้าอกและแขนข้างซ้าย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอาการปลอดภัย
สอบสวน นายอำนวย คำมุ่งคุณ อายุ 46 ปี เจ้าของรถยนต์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถออกมาจากป้อมพระจุลจอมเกล้า โดยใช้เส้นทางวัดคู่สร้างเพื่อกลับบ้านพักบริเวณซอยลุงฉัตรซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม. ในระหว่างขับมาถึงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายมีของแข็งกระทบข้างรถทางซ้ายเสียงดังสนั่น ก่อนจะหันไปมองที่กระจกมองข้างแต่กลับพบว่ากระจกได้หลุดออกจากตัวรถไปแล้ว จึงได้รีบจอดรถลงมาดูก่อนที่หันไปเห็นรถจักรยานยนต์ล้มกลิ้งคนขับกระเด็นลงไปนั่งอยู่ข้างทาง ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยปฐมพยาบาลต้องมาพบว่าสายอินเทอร์เน็ตพาดอยู่กับคอรถจักรยานยนต์และบนถนนพบม้วนสายอินเทอร์เน็ตที่พันกันอย่างรุงรังตกอยู่ฝั่งตรงข้าม จึงรีบเก็บเข้าข้างทางเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน แล้วรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยเหลือ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า สายอินเทอร์เน็ตซึ่งยังไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใดได้พาดกับเสาไฟฟ้าทั้ง 2 ฝั่งแบบข้ามไปมา กระทั่งถูกรถบรรทุกไม่ทราบชนิดเกี่ยวสายจนห้อยลงมากระทั่งชาวบ้านพบเห็นได้ช่วยกันใช้สายริบบิ้นพวงมาลัยดอกไม้ และขวดพลาสติกแบบบางผูกติดไว้กับสายดังกล่าวเพื่อให้ผู้ใช้รถได้เห็นแต่ในช่วงเกิดเหตุเป็นตอนกลางคืนประกอบกับไฟฟ้าส่องทางดับมืด ทำให้รถบรรทุกมองไม่เห็นเกี่ยวสายจนตกหล่นลงมากองกับพื้นถนนกระทั่งรถเก๋งของ นายอำนวย วิ่งผ่านมาพอดีทำให้ไปเกี่ยวกับสายดังกล่าวจนกระจกมองข้างหักแล้วสายยังไปฟาดลำตัว น.ส.ชาลิสา กับรถจักรยานยนต์จนล้มกลิ้งได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนที่จะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ใกล้เคียงเพื่อตรวจสอบว่าเป็นรถบรรทุกชนิดใดที่เกี่ยวสายตกลงมาเพื่อติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมทั้งจะตรวจสอบสายอินเทอร์เน็ตว่าเป็นของหน่วยงานใดเพื่อมาสอบสวนพร้อมดำเนินการต่อไป
