อธิบดีกรมสุขภาพจิตแสดงความห่วงใยสถาบันครอบครัวยุคใหม่หลังพบอัตราการหย่าร้างสูงขึ้นอย่างน่าตกใจถึงร้อยละ 39 พร้อมให้ความรู้ “5 ข้อต้องทำ และ 8 คำต้องห้าม” ประคองความสัมพันธ์ยืนยาว
ข้อมูลจากเฟซบุ๊กของนาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ระบุตัวเลขอ้างอิงกระทรวงมหาดไทยเผยในปี 2559 มีคนไทยจดทะเบียนสมรสรวม 307,746 คู่ และมีผู้จดทะเบียนหย่าจำนวน 118,539 คู่ โดยในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการหย่าร้างมีแนวโน้มสูงขึ้นจากร้อยละ 27 ในปี 2549 เพิ่มเป็นร้อยละ 39 ในปี 2559 โดยชี้ว่าเป็นเพราะสภาพครอบครัวของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปเน้นอยู่แบบครอบครัวเดี่ยวแค่พ่อแม่ลูกมากกว่าอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่แบบอดีตทำให้ความสัมพันธ์เปราะบางง่ายขึ้น
5 ข้อต้องทำ
- ร่วมกันสร้างกฎของครอบครัวที่ทุกคนยอมรับและปฏิบัติได้
- เมื่อมีปัญหาต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไข อย่าคิดว่าเป็นปัญหาของคนใดคนหนึ่ง
- โต้เถียงกันได้ เป็นเรื่องธรรมดาของครอบครัว แต่ต้องไม่ตะคอกข่มขู่หรือยั่วโมโหอีกฝ่าย
- เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้ตัวว่าเริ่มมีความโกรธเพิ่มขึ้น ให้เตือนสติตนเอง หยุดพูด เมื่อมีความพร้อมจึงกลับมาพูดกันใหม่
- เมื่อพร้อมที่จะแก้ปัญหา ควรหันหน้ามาร่วมกันปรึกษาหาทางแก้ไข และประการสำคัญต้องไม่ดูถูกความคิดของอีกฝ่าย
8 คำต้องห้ามเสี่ยงปัญหาสั่งสมจนหย่าร้าง
- คำสั่งเผด็จการ เช่น “เงียบไปเลย” หรือ “ทำอย่างนี้สิ”
- คำพูดที่ประชดประชัน เปรียบเทียบ หรือพูดถึงปมด้อย เช่น “ก็เป็นซะแบบนี้ ถึงได้ดักดานอยู่แค่นี้” หรือ “ถ้าฉันแต่งงานกับแฟนเก่า ป่านนี้คงสบายไปแล้ว”
- คำพูดท้าทาย เช่น “ถ้าแน่จริงก็เก็บของออกไปเลย” หรือ “พูดแบบนี้ก็เลิกกันไปเลยดีกว่า”
- คำพูดเอาชนะกัน เช่น “ที่มีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะแกนั่นแหละ” หรือ “เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉัน”
- คำพูดที่ขุดคุ้ยเรื่องเก่ามาพูดซ้ำ เช่น “บอกกี่ทีๆก็ไม่เชื่อ ครั้งที่แล้วก็แบบนี้” หรือ “อยู่กินกันมา 10 ปีไม่เห็นเธอทำอะไรสำเร็จสักอย่าง”
- คำพูดเชิงกล่าวหา กล่าวโทษ เช่น “อย่ามาอ้างว่าติดประชุม ติดเด็กน่ะสิ”
- คำพูดหยาบคาย
- คำพูดล่วงเกิน เช่นพูดดูถูกเหยียดหยามบุพการีญาติพี่น้องของอีกฝ่าย
Cr. นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์