“หมอต้อม” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เตือนประชาชนที่นำต้นอังกาบหนูไปรักษาโรคมะเร็ง ไม่บริโภคจนสูญเสียการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันที่ต้องทำควบคู่ไปด้วย ระบุเป็นสมุนไพรเก่าแก่ ที่ผ่านมาติดตามดูข้อมูลในการรักษามะเร็งโพรงจมูก และได้เพาะกล้าพันธุ์เตรียมไว้แจกจ่ายผู้คนกว่า 100 ต้น
ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้าจากที่มีข่าวสมุนไพรต้น “อังกาบหนู” สามารถรักษาโรคมะเร็งและอีกหลายโรคได้ ทำให้ประชาชนหลายจังหวัดตลอดจนผู้ป่วยพากันเก็บนำไปบริโภค หรือนำไปปลุกขยายพันธุ์จนเป็นข่าวโด่งดังต่อเนื่องด้านสุขภาพ และในส่วนของวัดราษฎร์เจริญศรัทธาธรรม ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พระสงฆ์ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊กว่า ที่วัดมีต้นอังกาบหนู โดยประชาชนทั้งใกล้และไกลที่รู้ข่าวต่างพากันมาขอทั้งต้น-เบี้ย-กิ่ง ไปปลูกที่บ้านไว้กิน รวมถึงไปฝากญาติที่ป่วยเป็นมะเร็ง และโรคอื่น ๆ 3-4 โรค อีกทั้งต้นอังกาบหนูมีสรรพคุณรักษาแผลสด ผื่นคัน โดยวิธีง่าย ๆ ใช้ตำพอกแผล ต้มกินหรือกินใบสด ๆ ตามความเชื่อ ล่าสุดหมดเกลี้ยงวัดตามที่เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าในด้านวิชาการ ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หรือ “หมอต้อม” หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งขึ้นชื่อในด้านการรักษาแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย กล่าวว่า ต้นอังกาบหนู เป็นสมุนไพรเก่าแก่ พบสมุนไพรชนิดนี้มีขึ้นทั่วไป ล่าสุดทราบว่าพระภิกษุ จ.สุโขทัย ได้นำมาบรรจุในแคปซูล เป็นสมุนไพรต้านมะเร็ง ทั้งนี้ ยังได้ติดตามสมุนไพรดังกล่าวมานานเช่นกัน โดยในเรื่องมะเร็งนั้น ดูในเรื่องการรักษามะเร็งโพรงจมูก แต่ขอเตือนผู้ป่วยไม่ควรบริโภคจนเสียการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันไปด้วย และขณะนี้ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้เพาะขยายพันธุ์อังกาบหนูไว้รวมกว่า 100 ต้นในการเตรียมแจกจ่ายกับผู้คน
“ต้นอังกาบหนู เป็นสมุนไพรที่มีการใช้มาเป็นเวลายาวนานทั้งในประเทศไทย และอินเดีย เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง โดยใช้กันอย่างกว้างขวางในโรคเกี่ยวกับการต้านการอักเสบ, แผลเปื่อยทุกชนิด อาทิ เท้าเปื่อย , ปากเปื่อย เป็นยารักษารักษาฟัน-เหงือกที่ดี เดิมใช้รักษาไข้, ไอ, หวัด ดอกใช้รักษาอาการปวดหัวไมเกรน เป็นยาบำรุง, รักษาความดัน-เบาหวาน ในส่วนโรคมะเร็งในสมัยก่อนก็มีใช้เช่นกัน แต่การศึกษาในเรื่องนี้มีค่อนข้างน้อย การใช้เหมือนทองพันชั่ง ใช้ดูแลแผลในกระเพาะอาหาร, สระผม เป็นต้น” ภญ.ดร.สุภาภรณ์ กล่าว