หลังจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีปัญหาในเรื่องขยะรีไซเคิลและ “ขยะอิเล็กทรอนิกส์” โดยเฉพาะที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่แหล่งใหญ่เนื่องจากมีประชาชนประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบป้องกัน พร้อมระบุว่าเป็นความเคยชินที่ชาวบ้านในพื้นที่ประกอบอาชีพแบบไม่กลัวตาย ซึ่งผู้สื่อข่าวลงไปตรวจสอบก็พบว่า กองขยะอิเล็กทรอนิกส์ สูงมากกว่า 2 หมื่นตันต่อปี
ภาพมุมสูงจากกล้องโดรน เผยให้เห็นกองขยะอิเล็กทรอนิกส์ในพื้นที่ ต.โคกสะอาด อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ หลังพบข้อมูลว่าพื้นที่ดังกล่าวมีขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้ามาในพื้นที่มากกว่า 1,200 ตันต่อเดือน เฉลี่ยตกปีละกว่า 2 หมื่นตัน สาเหตุมาจากชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพตระเวนรับรับซื้อของเก่า โดยเฉพาะขยะอิเล็กทรอนิกส์แล้วคัดแยกชิ้นส่วนขาย แต่กลับประสบปัญหาการกำจัดขยะเหลือ และขยะที่ไม่มีค่าไม่ถูกวิธี อีกทั้งขาดสถานที่จัดเก็บมานานหลายสิบปี จนเกิดบ่อเก็บขยะเล็กทรอนิกส์ล้นเกินขีดความสามารถในการกำจัด
ซึ่งวันนี้ (6 มิ.ย.61) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ สั่งการให้นายอำเภอฆ้องชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้ความรู้ โดย นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอฆ้องชัย บอกว่าชาวบ้านจาก 12 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.โคกสะอาด ส่วนใหญ่มีอาชีพตระเวนรับซื้อของเก่าทั่วประเทศ รวมถึงขยะอิเล็กทรอนิกส์เอามาคัดแยกชิ้นส่วนขาย นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ ต.โนนศิลาเลิง ที่รับซื้อของเก่าจำพวกเครื่องจักรและรถจักรยานยนต์แยกชิ้นส่วน ซึ่งหากรวม 2 พื้นที่ทำให้แต่ละเดือนมีขยะจำพวกเหล่านี้มาเข้าในพื้นกว่า 1,200 ตันต่อเดือน หรือเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นตันต่อปี ซึ่งจากการตรวจสอบขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ชาวบ้านนำมาคัดแยกชิ้นส่วน จะรับซื้อของเก่ามาจากครัวเรือนทั่วไปไม่ได้เป็นการนำมาจากการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะการคัดแยกขยะในพื้นที่ ต.โคกสะอาด ทำกันเป็นการสร้างอาชีพในครัวเรือน อีกทั้งสภาพหมู่บ้านไม่ได้แออัดจึงยังไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากนัก
ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เข้ามาให้ความรู้เรื่องคัดแยกขยะ โดยเฉพาะวิธีป้องกันการปนเปื้อนของสารเคมีที่อยู่ในขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเข้ามาดูแลและตรวจสุขภาพเพื่อเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบใครมีอาการป่วยจากการได้รับสารเคมีระหว่างคัดแยกขยะ แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพทุกปีเพื่อป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์เรื่องการขัดแยกขยะเสร็จแล้วให้นำไปทิ้งไว้ที่บ่อขยะโดยเฉพาะขยะจำพวกโฟม พลาสติก และสายไฟ ห้ามคัดแยกโดยการเผาหรือกำจัดไม่ถูกวิธีอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้กระทบด้านสิ่งแวดล้อม
ขณะที่ นายวิจิต มูลเอก นายก อบต.โคกสะอาด บอกว่า ชาวบ้าน ต.โคกสะอาด ประกอบอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นอาชีพหลักมานานแล้วจนสืบทอดการคัดแยกขยะไปยังลูกหลาน แต่ปัจจุบันเจอปัญหาการกำจัดขยะที่เหลือจากการนำไปขายไม่ถูกวิธี และมีความปลอดภัยในชีวิต ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในอนาคตได้ เนื่องจากสถานที่ทิ้งขยะหรือบ่อขยะของ อบต. มีเนื้อที่พียง 23 ไร่นั้นไม่เพียงพอต่อปริมาณขยะที่ถูกนำเข้ามาในแต่ปี ทำให้ปริมาณขยะล้น โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารระดับประเทศจากหลายกระทรวงลงพื้นที่เข้ามาตรวจสอบหลายครั้งแล้ว บางกระทรวงยังรับปากว่าจะจัดหาเตาเผาและดำเนินการปรับปรุงประสิทธิภาพบ่อขยะให้แต่ก็เงียบหายไป ไม่มีวี่แววที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน
ชาวบ้านรายหนึ่งที่ยึดอาชีพคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ บอกว่า ทำอาชีพนี้มานานหลายปีแล้วโดยจะรับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วมาแกะชิ้นส่วนส่งขาย รายได้ก็โอเค ที่ผ่านการคัดแยกขยะเหล่านี้ ตนเองและครอบครัวสวมหน้ากากอนามัยและถุงมือป้องกันสารปนเปื้อน โดยทุกคนไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไรและยืนยันว่าจะยึดอาชีพนี้ต่อไป