กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน พายุโซนร้อน ขนุน จะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน และเวียดนามตอนบน วันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ ขณะที่จังหวัดชัยนาท ชาวบ้านร้องขอห้องสุขา และน้ำสะอาด หลังจมอยู่ใต้บาดาล กว่า 300 หลัง
ชาวโพนางดำตกจมน้ำกว่า300หลัง ขอสุขา-น้ำดื่มด่วน
ภาพมุมสูงในพื้นที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท จะเห็นได้ว่ายังคงมีน้ำท่วมสูงขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ จากปัญหาแนวกระสอบกั้นน้ำแตก ซึ่งขณะนี้ เกิดขึ้นในพื้นที่ ม.4 และ ม.5 ของ ต.โพนางดำตก ซึ่งอยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา ที่แนวกระสอบทรายพังทลายลง ทำให้มวลน้ำมหาศาลทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนประชาชนรวมกว่า 300 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของหนีน้ำขึ้นมาอาศัยอยู่บนถนนสายชัยนาท-สิงห์บุรี และนำเรือออกมาซ่อมแซมอุดรูรั่ว เพื่อใช้ในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เพราะจำเป็นต้องเข้าไปคอยตรวจสอบสิ่งของภายในบ้าน เพื่อป้องกันขโมยเข้ามาก่อเหตุซ้ำเติม
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาอาศัยบนถนน เล่าว่า ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก เพราะตอนกลางคืนยุงจะชุมมาก เรื่องของห้องสุขายิ่งทุกข์หนัก เนื่องจากถูกน้ำท่วม ต้องขับถ่ายใส่ถุงดำแทน จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอสุขาเคลื่อนที่ไปตั้งให้ชาวบ้านได้ปลดทุกข์ด้วย รวมทั้งน้ำสะอาดที่ปัจจุบันเริ่มขาดแคลนแล้ว โดยทั้ง 2 เรื่อง เป็นสิ่งที่ชาวบ้านต้องการอย่างเร่งด่วนในขณะนี้
ชาวอุทัยธานี ปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์น้ำท่วม
ขณะที่ จ.อุทัยธานี ชาวบ้าน ม.1 ,2 ,7 ต.ท่าซุง อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี กว่า 100 ครัวเรือน ยังคงต้องปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์อุทกภัย หลังถูกน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรมานานนับสัปดาห์ ถนนทางเข้าหมู่บ้าน และบ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรครึ่ง ส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรถูกน้ำท่วมรอวันเสียหาย การเดินทางเข้าออกหมู่บ้านอาศัยเพียงเรือเท่านั้น บางรายไม่มีเรือต้องอาศัยการเดินลุยเข้าออกจากบ้าน ทั้งนี้ ยังมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เมืองอุทัยธานี หลายตำบลน้ำยังท่วมสูง จนชาวบ้านต้องปรับวิถีชีวิตให้เข้ากับสถานการณ์
พิมายอ่วมน้ำท่วม-พิพิธภัณฑ์เร่งกั้นกระสอบทราย
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ระดับน้ำในลำน้ำมูลมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นขยายออกเป็นวงกว้าง เข้าท่วมหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลในเมือง และตำบลโบสถ์ ซึ่งอยู่ด้านท้ายเขื่อนพิมาย นอกจากนี้น้ำยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย กว่า 4 พันไร่ ถนนสายบ้านใหม่ไทรงาม ไปตำบลท่าหลวง ระดับน้ำท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร ประชาชนสัญจรผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก ขณะเดียวกันระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนพิมาย ก็ได้เอ่อเข้าท่วมบ้านในพื้นที่ชุมชนวังบูรพา เขตเทศบาลตำบลพิมาย โดยเฉพาะบ้านของ นายเทศ เร่งพิมาย อายุ 80 ปี ซึ่งบ้านอยู่ติดกับลำน้ำมูล มีระดับน้ำสูงกว่า 70 เซนติเมตร จึงต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกบ้าน
นอกจากนี้ ที่บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ซึ่งอยู่เหนือลำน้ำมูล นางชุติมา จันทร์เทศก์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมกระสอบทราย จำนวน 2 พันใบ เพื่อมากั้นเป็นแนวทางเสริมกับหินที่มีอยู่แล้วสูงถึง 40 เซนติเมตร โดยระดับน้ำในลำน้ำมูลขณะนี้ยังเหลืออีกประมาณ 50 เซนติเมตร ก็จะเสมอกับตลิ่งบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
อุตุฯประกาศพายุขนุน เข้าไหหลำ-เวียดนาม 15-17 ต.ค.นี้
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนพายุโซนร้อน“ขนุน” ปกคลุมบริเวณด้านตะวันตกของประเทศฟิลิปปินส์ ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยพายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ โดยจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว เมื่อเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ทั้งนี้เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมประเทศเวียดนาม และลาวตอนบน แต่พายุนี้ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในระยะ 1-2 วันนี้
อนึ่ง ร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ตอนบน ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
นายกฯ ยืนยันไม่เกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 54
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานสถานการณ์น้ำในขณะนี้ โดยยืนยันว่า จะไม่มีปัญหาน้ำท่วมใหญ่เช่นเดียวกับในปี 54 เพราะปริมาณน้ำในปีนี้ยังน้อยกว่าปี 54 มาก อีกทั้งทุกหน่วยงานได้วางแผนบริหารจัดน้ำอย่างเป็นระบบและบูรณาการร่วมกันอย่างเต็มที่ โดยได้นำบทเรียนในอดีตมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น จึงไม่อยากให้พี่น้องประชาชนตื่นตระหนก หรือหลงเชื่อข่าวลือของผู้ไม่หวังดี
อย่างไรก็ตาม จากฝนที่ตกหนักบริเวณภาคเหนือ ทำให้น้ำเหนือไหลลงสู่ภาคกลางอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน นอกคันกั้นน้ำ 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้พยายามจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อลดผลกระทบให้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งกำชับให้กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกับจังหวัด หน่วยทหาร และองค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งออกช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เพราะในช่วงนี้เป็นช่วงที่ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากพายุในฤดูมรสุม เพื่อให้สามารถเตรียมการรับมือ และป้องกันความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ได้อย่างทันท่วงที