องค์คณะแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญา ได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษา คดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ช่วงแรก ตั้งแต่ 08.30 น. จนถึงขณะนี้ ซึ่งได้มีการพิเคราะห์พยานบุคคลฝ่ายโจกท์ ที่เป็นผู้เสียหายรวม 36 ปาก ซึ่งถือเป็นประจักษ์พยานและกลุ่มเจ้าหน้าที่ ซึ่งได้มีการเบิกความถึงรายละเอียดลักษณะการทำหน้าที่ของจำเลยแต่ละคน ว่าใครเป็นผู้คุมแคมป์ ที่เรียกว่าบิ๊กบอส ใครเป็นเจ้าของแคมป์ ซึ่งกักขังคนต่างด้าวชาวเมียนมา และชาวบังคลาเทศ บริเวณเทือกเขาแก้ว ก่อนที่จะส่งต่างด้าวผ่านไปยังประเทศมาเลเซีย ใครเป็นผู้คุมเสบียง น้ำ อาหาร ใครเป็นคนทำร้ายร่างกาย ใครเป็นคนห้ามใช้โทรศัพท์ออกไปภายนอก
โดยข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ที่แคมป์นั้น ถูกจำกัดอาหารและน้ำ ซึ่งไม่เพียงพอต่อคนต่างด้าว และในระหว่างที่ถูกควบคุมตัวห้ามใช้โทรศัพท์โทรหาญาติ มิเช่นนั้นจะถูกทำร้าย และถูกขู่จะฆ่า และหากออกไปจากแคมป์ก็จะถูกจับตัวกลับมา ซึ่งผู้เสียหายก็เคยถูกทำร้ายเมื่อขออาหารและน้ำเพิ่ม โดยระหว่างที่ถูกควบคุมตัวในแคมป์ ก็ไม่ใดรับจ้างใดๆ โดยศาลเชื่อว่าพยานแต่ละคนได้ให้การตามข้อเท็จจริงที่ประสบและรับรู้มา ซึ่งยากที่จะปั้นแต่งรายละเอียด และจนถึงขณะนี้ ศาลก็ยังคงใช้เวลาในการอ่านคำพิพากษาช่วงการพิเคราะห์ พฤติการณ์ของจำเลยแต่ละคน ซึ่งขณะนี้ญาติของจำเลยได้ลงมาพัก เข้าห้องน้ำ พักทานข้าว กันบ้างแล้ว