เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี เร่งการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ไหลตามช่องทางปกติ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูระบายน้ำสปิลเวย์ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี
ที่เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี หลังศูนย์เฉพาะกิจติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ กฟผ. ประกาศเรื่องแผนการปรับเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อพร่องน้ำในอ่างเก็บน้ำ ตามข้อสั่งการของผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ซึ่งจะระบายผ่านช่องทางปกติ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน และระบายผ่านทางสปิลเวย์อีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน รวมทั้งสิ้น 53 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ตั้งแต่วันที่ 23-27 สิงหาคม ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 ส.ค.61) เจ้าหน้าที่เปิดประตูระบายน้ำล้นสปิลเวย์ทั้ง 2 บาน ขึ้นสูง 50 เซนติเมตร โดยจะทำให้น้ำไหลออกมาทางประตูระบายน้ำรวม 10 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน และเมื่อบวกกับทางช่องทางปกติ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน รวมเป็น 53 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ การระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำสปิลเวย์ เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 16 ปี
อย่างไรก็ตาม จุดรับน้ำท้ายเขื่อนจุดแรก คือ สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ห่างจากหน้าเขื่อนวชิราลงกรณ 5 กิโลเมตร ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวจะเคลื่อนตัวมาถึงประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งอยู่ที่ประมาณ 30 เซนติเมตร บวกกับทางเขื่อนวชิราลงกรณ ระบายน้ำเพิ่มผ่านสปิลเวย์อีก 10 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าจุดนี้จะมีระดับน้ำจะสูงจากเดิมไม่เกิน 1 เมตร และเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ อ.ทองผาภูมิ มากนัก
น้ำทะลักบ้านเรือน “อ.เชียงแสน-เชียงของ”
ส่วนที่ จ.เชียงราย ฝนมี่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มวลน้ำจำนวนมากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรในหลายตำบลของ อ.เชียงของ และ อ.เชียงแสน โดยเฉพาะที่ ต.ครึ่ง , ต.สถาน และ ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ มวลน้ำได้ท่วมสูงขึ้นเฉลี่ยประมาณ 30 เซนติเมตร และกำลังเพิ่มระดับเรื่อยๆ หากฝนยังตกอยู่ ทำให้ นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ สั่งการให้ผู้นำหมู่บ้านทุกพื้นที่เสี่ยงแจ้งเตือนประชาชนผ่านเสียงตามสาย ให้ขนของขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับหมวดทางหลวงเชียงของ และตำรวจภูธรบุญเรือง ปิดเส้นทางจราจรถนนสาย 1020 ในบางจุด พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว
ฝนถล่มภูเก็ต น้ำท่วมถนนจราจรติดขัด
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาใน จ.ภูเก็ต หลังจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องนานกว่า 4 ชั่วโมงตั้งแต่เช้ามืด ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนถนนหลายจุดเพราะระบายไม่ทันทั้งที่ถนนเทพกระษัตรีหน้าชุปเปอร์ชีป, ซอยสุรินทร์, แยกธนาคารชาร์เตอร์ สี่แยกโลตัส อีกทั้งช่วงที่เกิดน้ำท่วม เป็นช่วงเวลาเร่งด่วน ทำให้การจราจรติดขัดนานเป็นชั่วโมงโดยเฉพาะขาเข้าเมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกในทุกเส้นทาง ขณะที่ตัวเมืองภูเก็ต น้ำจากคลองบางใหญ่ ซึ่งเป็นคลองสายหลัก ที่มีจุดเริ่มต้นจากน้ำตกกะทู้ และไหลผ่านตัวเมืองภูเก็ตไปลงทะเล บริเวณปลายแหลมสะพานหิน ในหลายจุด น้ำเริ่มเอ่อล้นท่วมถนนหฃายสาย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ต มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และเร่งระบายน้ำจากลำคลองให้ออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง