สถานการณ์น้ำที่ จ.เพชรบุรี ตอนนี้ อ.เมืองเพชรบุรี เตรียมพร้อมรับน้ำท่วมทุกด้าน คาดว่าไม่กระทบประชาชน ส่วนเขื่อนเพชรเริ่มปล่อยน้ำลงคลองสาย 3 เพื่อเร่งระบายน้ำลงคลอง D9 ออกสู่อ่าวไทยต่อไปได้ถึง 35 ล้านลูกบาศก์เมตร
วันนี้ (10 ส.ค.61) โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี กรมชลประทาน เปิดการระบายน้ำลงคลองชลประทานสาย 3 ตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ (9 ส.ค.) หลังจากเครื่องจักรและรถแบคโฮขุดขยายคลองชลประทานสาย 3 จากเขื่อนเพชร ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง เชื่อมต่อกับอาคารประตูระบายน้ำคลอง D9 บ.ระหารบอน ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง ระยะทางรวม 7.6 กม. ที่โครงการชลประทานเพชรบุรี ร่วมกับภาคประชาชน ทำการขุดขยายคลองสาย 3 เพื่อตัดยอดมวลน้ำเหนือเขื่อนเพชรผ่านคลองสาย 3 เชื่อมต่อคลองD9 ลงสู่ทะเลอ่าวไทยที่บ้านโตนดน้อย ต.ปึกเตียน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งมีศักยภาพระบายน้ำได้ 35 ลบ.ม./วินาที
สำหรับรายงานบริหารจัดการน้ำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ระบุว่า เขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอยู่ในขั้นเฝ้าระวัง อยู่ที่ 734.4 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 103.44 ของความจุอ่าง มีน้ำไหลลง 15.18 ล้านลูกบาศก์เมตร เปิดระบายน้ำ 16.95 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน ส่วน เขื่อนเพชร เปิดระบายน้ำลงแม่น้ำเพชรบุรี 114.2 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 9.86 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน เปิดน้ำเข้าคลองส่งน้ำสายใหญ่ 4 สาย รวม 70.19 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวมทั้งสิ้น 184.39 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สถานการณ์ตอนนี้ยังปกติและรับมือได้
เมืองเพชรบุรีพร้อมรับมือน้ำท่วม
นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.เพชรบุรี ว่า ตอนนี้ยังเฝ้าระวังพื้นที่ติดกับตัวเขื่อนแก่งกระจาน โดยเฉพาะ ต.ท่ายาง ส่วนพื้นที่เทศบาลเมืองเพชรบุรี ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 50 เซนติเมตร พื้นที่ถูกน้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรจึงยังไม่มีผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ประชาชนจะต้องเฝ้าระวังก็คือ ปริมาณฝนตกเหนือเขื่อนและใต้เขื่อน โดยเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแม้ว่าจะมีฝนตกแต่คาดว่าจะไม่กระทบต่อประชาชนแน่นอน ซึ่งทาง อ.เมืองเพชรบุรี ได้เตรียมพร้อมเพื่อรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก เตือนประชาชนให้ตื่นตัวและยกของขึ้นที่สูง และส่งเจ้าหน้าที่ทหารเตรียมพร้อมทั้งเครื่องสูบน้ำ เรือท้องแบน รถยกสูง และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
อ.กะเปอร์ จ.ระนอง อ่วมอีก! น้ำป่ามาซ้ำโดน 3 ตำบล
สถานการณ์น้ำพื้นที่อื่น ๆ เช่น อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือประชาชนและน้ำจากในคลองเอ่อล้นเข้ามาสมทบอีกด้วย ซึ่งในช่วง 2 วันที่ผ่านมา พื้นที่ ต.บางหิน อ.กะเปอร์ เพิ่งจะถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนใน 5 หมูบ้าน ประชาชนเดือดร้อนเกือบ 400 หลังคาเรือน แต่เช้าวันนี้ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบเพิ่มอีก 2 ตำบล คือ ต.เชี่ยวเหลียง และ ต.บ้านนา ซึ่งทาง อ.กะเปอร์ มาตรวจสอบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และอีกหลากหลายหน่วยงานส่งกำลังมาเข้าช่วยเหลือประชาชนทั้ง 3 ตำบลแล้ว และยังรอดูสถานการณ์เรื่องน้ำในคลองที่เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนชน เนื่องจากในช่วงสายนี้น้ำทะเลจะหนุนเข้ามาสมทบ ซึ่งจะทำให้การระบายน้ำเป็นไปได้ช้า
เร่งแก้ปัญหาดินสไลด์สังขละบุรี 14 จุด
ส่วนสถานการณ์ที่ จ.กาญจนบุรี หลังจากฝนเริ่มลดลงแล้ว แต่มีปัญหาดินสไลด์ลงมาบนถนนกว่า 14 จุด สายสังขละบุรี-บ้านห้วยมาลัย โดยเจ้าหน้าที่ อบจ.กาญจนบุรี และ อบต.หนองลู
นำรถแบ๊คโฮและเครื่องจักรกล มาทำการตักดินที่สไลด์ พร้อมนำป้ายเตือนมาติดตั้งเพื่อความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ได้ขอความร่วมมือประชาชนใช้รถใช้ถนนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อเกิดฝนตกลงมา น้ำฝนจะพัดพาดินโคลนจากภูเขาลงมาบนถนน ทำให้ถนนลื่นอาจเกิดอุบัติเหตุได้ ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปแล้ว 13 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วง 1-2 วันนี้
เขื่อนน้ำอูนเร่งระบายน้ำ เตือนสกลนครฝนตกหนักอีก
ทางด้านภาคอีสานใน จ.สกลนคร ตอนนี้ฝนตกหนักโดยเฉพาะพื้นที่เหนือเขื่อนน้ำอูน วันนี้มีปริมาณน้ำไหลเข้า 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้เขื่อนน้ำอูนมีปริมาณน้ำ 534 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 102 เกินความจุเขื่อน เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งระบายน้ำออกจากสปิลเวย์ทางคลองส่งน้ำ และกาลักน้ำ ทำให้สามารถระบายน้ำได้กว่า 3 ล้านลูกบาศก์เมตร/วัน คาดว่าจะสามารถรองรับน้ำได้อีกเนื่องจากตรวจสอบโครงสร้างของเขื่อนแล้วว่ายังมั่นคงแข็งแรง อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยา ได้เตือนให้ จ.สกลนคร เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วม เนื่องจากจะมีฝนตกหนักในช่วงนี้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน