น.ส.นันธิชา สายเสริมสุข อายุ 35 ปี ชาว ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง ขณะเดินทางมาทำบุญถวายสังฆทานเนื่องวันสวรรคตของพ่อหลวง ร.9 ครบ2ปี ที่วัดสว่างอารมณ์ แคแถว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้นำเจ้ากุ๊กๆไก่ชน ที่เลี้ยงเอาไว้มาประมาณ1ปีแล้ว ไปไหนก็ไปด้วยกันทุกที่ไม่ว่าจะไปตลาดซื้อกับข้าวหรือว่าจะไปเที่ยวไหนไปร้านอาหารที่รู้จักกันเรียกได้ว่าไปด้วยกันทุกที่ๆเขาให้เอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ก็จะไปด้วยกันทุกที่ อย่างวันนี้มาทำบุญก็เอามาด้วยถ้าไม่เอามาก็จะร้องตามตลอด
น.ส.นันธิชา บอกว่า ไก่ชนตัวนี้ เจ้าของเดิมนำไก่ชนตัวนี้ไปเข้าสังเวียนตีกับอีกฝ่ายหนึ่งแต่ตีแพ้เขา จนไก่ตาบอดหนึ่งข้างๆซ้ายแต่พอเจ้าของเดิมกลับมาถึงบ้านจะฆ่าให้ตายแล้วนำไปปรุงเป็นอาหาร เดินไปพบโดยบังเอิญจึงขอซื้อต่อมาด้วยเบียร์6ขวดเจ้าของที่นำไก่ไปตีแพ้จึงได้ให้มา
จากนั้นนำมาเลี้ยงที่บ้านดูแลเหมือนลูกคนหนึ่ง นอนก็นอนในห้องแอร์ต้องปูผ้าห่มให้นอน กินก็กินปลาแซลมอนมะเขือเทศ ปูอัด แบรนด์ซุบไก่ๆแบรนด์รังนก วิตามิน กลางคืนต้องตื่นลุกขึ้นมาเก็บขี้ ประมาณ4-5ครั้งต่อคืน ถ้าไม่เก็บเจ้ากุ๊กๆจะไม่นอนในผ้าห่มที่ปูเอาไว้ให้ พอดึกก็จะขึ้นมานอนอยู่บนอกหรือมานอนข้างตัวบ้าง บนเตียงนอนกับคนเลย เวลาไปไหนก็จะไปด้วยกันทุกที่ ถ้าไม่ให้ไปเจ้ากุ๊กจะร้องตาม ถ้าสถานที่ไหนไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าก็จะไม่ไปเช่นกัน เหมือนว่าด้วยความผูกพันไปแล้ว จนทุกวันนี้ต้องไปซื้อไก่ชนตัวเมียมาเพิ่มอีกตัวหนึ่งแล้วมาเป็นเพื่อนกัน ส่วนตัวแล้วเลี้ยงเจ้ากุ๊กๆดีกว่าเลี้ยงหมาแมวเพราะว่าไม่ต้องเครียดเรื่องต้องนำไปขึ้นทะเบียนตัวละ450บาท และจะเลี้ยงเจ้ากุ๊กๆไปจนตายจากกันเลยทีเดียว